นายกฯซุ่มบันทึกเทป ชิมไปบ่นไป

หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับคลื่นลมการเมืองมาตลอดทั้งสัปดาห์ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็พักผ่อนสมองด้วยการบันทึกเทปรายการ “ชิมไปบ่นไป” อยู่ภายในบ้านหมู่บ้านโอฬาร 2 ซอยนวมินทร์ 81 เขตบึงกุ่ม โดยไม่ยอมให้สื่อมวลชนและช่างภาพเข้าทำข่าว อ้างว่าต้องการความเป็นส่วนตัว
  

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม หมู่บ้านโอฬาร 2 ซอยนวมินทร์ 81 เขตบึงกุ่มว่า

ความเคลื่อนไหวของนายสมัครตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 16 ก.พ. ทีมงานรายการ “ชิมไปบ่นไป” ได้เข้ามาจัดเตรียมสถานที่ ภายในสวนหลังบ้านเพื่อบันทึกเทปรายการ โดยเนื้อหารายการเป็นการแนะนำเมนูอาหาร เคล็ดลับการจับจ่ายเลือกวัสดุสำหรับปรุงอาหาร รวมถึงขั้นตอนการทำอาหาร โดยใช้ฉากหลังข้อความ “ไพร์มไทม์คุ้กกิ้ง” ทั้งนี้ทีมงานถ่ายทำเปิดเผยว่า จะมีการบันทึกเทปตลอดทั้งวันเพื่อนำไปตัดต่ออีกครั้ง จนกระทั่งเวลา 09.00 น. นายสมัครได้ลงจากห้องพัก เพื่อมาทำการแต่งหน้ารอบันทึกเทป แต่เมื่อนายสมัครเหลือบมาเห็นผู้สื่อข่าวและช่างภาพ ที่แอบมองทางช่องประตู จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปิดประตู เพื่อขอความเป็นส่วนตัว
 

ยังไม่รู้จะเอาไปออกอากาศช่องไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายการ “ชิมไปบ่นไป” นั้น นายสมัครเคยได้ดำเนินรายการมาแล้วก่อนหน้าที่จะได้รับโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรี โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส แต่สำหรับการบันทึกเทปรายการ “ชิมไปบ่นไป” ครั้งล่าสุดนี้ ถือว่าเป็นการบันทึกเทปครั้งแรกหลังจากที่นายสมัครได้รับโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯ ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องใด นอกจากนั้นระหว่างวันที่ 20-24 ก.พ.นี้ จะมีการจัดงานมหกรรมอร่อยทั่วแผ่นดิน “7 ปี ชิมไปบ่นไป” ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนายสมัครจะเป็นประธานเปิดงาน และแนะนำร้านอาหารที่มาเช่าพื้นที่ เพื่อจำหน่ายอาหารทั้งสดและแห้ง
 

“นพดล” ลั่นไม่มีดอดพบ “ทักษิณ”
 

นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวถึงการจะพบปะกับ พ.ต.ท.ทักษิณอดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงนี้ว่า ไม่ได้มีกำหนดการที่จะไปพบ พ.ต.ท. ทักษิณในช่วงนี้ และตนก็แยกบทบาทชัดเจน เพราะบางคนก็คิดว่าตนน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณก็จะมาถามถึง แต่เวลานี้ไม่มีตารางเวลาที่จะพบ พ.ต.ท. ทักษิณใดๆ อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไปประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่สิงคโปร์ในวันที่ 19-20 ก.พ.นี้ยืนยันอีกครั้งว่าจะไม่มีการไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่สิงคโปร์แล้วในเวลานี้
 

ยัน “สมัคร” นายกฯตัวจริงเสียงจริง
 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสมัคร   สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่าตนเองไม่ใช่หุ่นเชิด นายนพดลตอบว่า ทั้งเรื่องนอมินีหรือเรื่องหุ่นเชิด ที่ว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของอดีตพรรคไทยรักไทย หรือนายสมัครเป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ มันก็มีกระแสวิจารณ์มาอย่างต่อเนื่อง จริงๆมันก็ไม่เป็นความจริง นายสมัครเป็นนายกฯตัวจริงเสียงจริง   หลายเรื่องมีดุลพินิจของตัวเอง อย่างการคัดสรรรัฐมนตรี และบุคลากรทางการเมืองระดับรองลงมา ทั้งเลขานุการรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี รวมทั้งการดำเนินการหลายเรื่อง แสดงความเป็นตัวตนของนายสมัครอยู่แล้ว ดังนั้น อยากให้สบายใจได้ว่าเราไม่ได้เป็นรัฐบาลนอมินี และให้ดูที่นโยบายที่จะแถลงในวันที่ 18-19 ก.พ.นี้จะดีกว่า ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร จากนั้นให้เวลาสักพัก 3-6 เดือนทำได้อย่างที่คุยไว้หรือไม่ ซึ่งสังคมต้องช่วยกันตรวจสอบ ส่วนนี้ดีกว่า
 

เย้ยยุบพลังประชาชนยังอีกไกล
 

ต่อข้อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวจะมีการยุบพรรคพลังประชาชน เนื่องจาก กกต.จะให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อต่างประเทศหรือไม่ นายนพดล ตอบว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาล เพราะว่าการพิจารณาดังกล่าวเป็นการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ กกต. แม้แต่นางสดศรี สัตยธรรม กตต.ก็ยังไม่ทราบว่าข่าวออกมาได้อย่างไร และ กกต.เองก็มีสิทธิที่จะเห็นด้วยกับคณะอนุกรรมการ กกต.ชุดดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ ขณะเดียวกัน การยุบพรรคก็ต้องเข้าสู่ กระบวนการฟ้องร้อง หากสมมติว่าผิดก็ต้องไปดูว่าผิดในขณะที่พรรคเพิกเฉย พรรคมีส่วนร่วมหรือไม่ ถ้า พรรคไม่มีส่วนร่วม ก็เป็นเรื่องของปัจเจกชนปัจเจกบุคคลของแต่ละคนไป ก็ไม่สามารถดำเนินการยุบพรรคได้ ถึงดำเนินการยุบพรรคได้ก็ไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะยุบอีกหรือไม่
 

มั่นใจ “ยงยุทธ” แจงความบริสุทธิ์ได้
 

“ผมก็ยังมั่นใจในตัวประธานฯยงยุทธ นอกจากเป็นคนที่ผมรักเพราะเป็นเพื่อนผม เกิดวันที่ 3 เม.ย. ผมเกิดวันที่ 23 เม.ย.ปีเดียวกัน เดือนเดียวกัน ยกเว้นวัน และเขาก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ และผมว่าคุณยงยุทธไม่น่าจะไปทำอะไรพวกนั้น มั่นใจว่าเขาไม่ไปทำหรอก ไปจ่ายเงินให้กำนันผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ผมมั่นใจในความบริสุทธิ์ของคุณยงยุทธ และก็เขาเป็นคนที่มีความสามารถ มีทีมงานนักกฎหมาย ที่จะแสดงความบริสุทธิ์” นายนพดลกล่าว
 

ชี้ พปช.ไม่แตกแยกลงตัวกันได้ 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกลุ่มการเมืองเคลื่อนไหว ในเรื่องตำแหน่งทางการเมืองของ พปช.ในขณะนี้ จะกลายเป็นความขัดแย้งต่อไปในรัฐบาลหรือไม่ นายนพดลตอบว่า นักการเมืองกับการเคลื่อนไหวคงไม่มีปัญหาอะไรคิดว่า พปช.มีผู้บริหารที่ดูแลทั้งเรื่องของตำแหน่ง และเรื่องของนโยบาย เราจะพยายามทำอะไรในกรอบของ กรรมการบริหารพรรคให้ดี   เราต้องทำเป็นสถาบันมีกระบวนการตัดสินที่โปร่งใสอธิบายได้ในแต่ละเรื่องว่าใคร ทำไม ถึงได้ลงตำแหน่งใด ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะท้ายที่สุดต้องยึดมติพรรค สำคัญคือต้องสร้างความเข้มแข็งให้พรรค ทำให้คนมีความรู้สึกว่าจะส่งใครลงถ้าเป็นคนของ พปช.ต้องใช้ได้ ดังนั้น ความสำคัญมันก็จะย้ายตัวบุคคลไปอยู่ที่พรรคมากกว่าตัวบุคคล และมั่นใจว่า เมื่อมีความขัดแย้ง พปช.จะมีจุดลงตัวได้ข้อยุติเช่น การแต่งตั้ง ครม.ก็ไม่เห็นมีใครโวยวายในลักษณะที่ทำให้พรรคแตกแยกระส่ำระสาย ตนว่าเรามีประสบการณ์ ในอดีตว่าการแย่งชิงตำแหน่งมันทำให้มีปัญหาก็คงไม่ทำ
 

เชื่อศักยภาพ “สมัคร” คุมการเงินได้
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยกับนายกฯที่กำกับดูแลงานด้านการเงิน และกฎหมายด้วยตัวเอง นายนพดลตอบว่า คณะกรรมการกฤษฎีกากับสำนักงบประมาณนั้น นายสมัครเป็นนักกฎหมาย คุ้นเคยกับกฤษฎีกาอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาทางกฎหมายของรัฐบาล ส่วนสำนักงบประมาณนั้นนายกฯรอบรู้เพราะร่วมรัฐบาลมาหลายสมัย เห็นว่าชอบแล้วที่นายกฯจะดูแลเอง จริงๆแล้วเป็นรัฐมนตรีเราต้องให้เกียรตินายกฯอยู่แล้ว ในสังคมไทยเรามักจะเคารพผู้ใหญ่อยู่แล้ว เราก็จะให้เกียรตินายกฯ และเชื่อในศักยภาพของนายสมัคร เพราะนายสมัครมีเลขาธิการนายกฯ มีรองนายกฯช่วยกันดูแล