สมัคร" จ้อซีเอ็นเอ็น ยัน"แม้ว"ไม่โกง แต่ทำธุรกิจฉลาด ยอมรับเป็นกุนซือเงาให้ทีมเศรษฐกิจ นั่งกลาโหมป้องกันปีนเกลียวรัฐบาล ด้าน"สมชาย" ยันนโยบายไม่ขายฝัน 6 เดือนเห็นผล "เฉลิม" ประเดิมงานลุยใต้สกัดค้ายา "ไทยพีบีเอส" ดักคอรัฐบาล ชี้ ก.ม.ปิดช่องแทรกแซง
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์รายการ "ทอล์ค เอเชีย" ที่มีนายแดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ดำเนินรายการ
โดยซักถามข้อสงสัยเรื่องพรรคพลังประชาชนถูกมองว่าเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย และบทบาทของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ตั้งคำถามเขาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ และรับตัวเขาเข้าร่วมพรรค ซึ่งนายสมัคร ตอบว่าเป็นไปได้ โดยตัวเขาเองซึ่งก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก ก็ตกอยู่ในฐานะผู้เสียโอกาสเช่นกัน หลังจากหลุดจากตำแหน่งดังกล่าวในช่วงที่เกิดรัฐประหาร
ทั้งนี้ นายสมัคร ยอมรับว่าบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อการทำงานของเขา คือ เป็นอดีตหัวหน้าพรรคคนเก่า
ดังนั้น อดีตนายกรัฐมนตรีจึงมีสิทธิเสนอความคิดสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ได้ เนื่องจากมีประสบการณ์การบริหารประเทศอย่างประสบความสำเร็จมานานถึง 5 ปี พร้อมระบุว่าตนจะไม่เป็นผู้รับคำปรึกษาจากอดีตนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่การที่คณะรัฐบาล โดยเฉพาะคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ จะขอคำปรึกษาจากอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่ทำได้และไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
นอกจากนี้ นายสมัครยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ตนไม่ใช่หุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งมีหน้าที่บริหารประเทศและมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง
รับคุม กห.กันทหาร-รัฐบาลขัดแย้ง
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า นั่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหม เพื่อต้องการควบคุมกองทัพด้วย เนื่องจากกองทัพและรัฐบาลในสมัยก่อน มักมีความเห็นขัดแย้งกัน ซึ่งทั้งกองทัพและรัฐบาล ก็เป็นข้ารับใช้ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งหากยังมีความขัดแย้งเกิดขึ้น จะทำให้ในหลวงทรงไม่สบายพระราชหฤทัยอย่างมาก ดังนั้น ความเป็นกลางจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในเวลานี้ และในเวลานี้ประเทศไทยก็มีผู้บัญชาการกองทัพที่ดีมาก
ป้อง"ทักษิณ"ยันฉลาดทางการค้า
ต่อข้อซักถามที่ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมีความผิดหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า สำหรับเขาแล้วผู้ที่กระทำผิดจะต้องมีหลักฐานพิสูจน์ได้ ทั้งนี้ ไม่ได้ตอบคำถามนี้ทั้งในฐานะของเพื่อนหรือคนสนิท เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติการณ์ทุจริตหรือไม่ นายสมัคร ย้อนถามว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไร และคำถามที่ว่าทุจริตหรือไม่นั้น กลายเป็นเรื่องโบราณไปแล้ว
"เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรีตัดสินใจเปลี่ยนกฎเกณฑ์สัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติเพิ่มขึ้น ก่อนขายหุ้นในราคา 7.3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ไม่ต้องจ่ายภาษีเพราะกฎหมายกำหนดไว้เช่นนั้น จึงไม่คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมทุจริต เมื่อว่ากันตามกฎหมาย แต่ถือเป็นความเฉลียวฉลาดในการทำการค้าเมื่อมีโอกาสของ พ.ต.ท.ทักษิณมากกว่า" นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถูกถามถึงความเสียหายที่ประเทศไทยได้รับจากการก่อรัฐประหาร นายสมัคร ระบุว่า ไม่สามารถอธิบายเป็นตัวเลขได้ เนื่องจากเป็นความเสียหายในแง่ความรู้สึกของประชาชน ซึ่งตั้งแต่รากหญ้าจนถึงคนร่ำรวย ต้องเผชิญกับปัญหาเช่นกัน ขณะที่บรรดาร้านอาหาร ก็บอกว่าธุรกิจตกต่ำลง 50 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามถึงบทลงโทษหัวหน้าคณะผู้ก่อรัฐประหาร หากประเทศได้รับความเสียหายจากเหตุรัฐประหารนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะไม่มีการลงโทษ เนื่องจากการแก้แค้นเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะเขาเชื่อว่า บรรดาผู้นำรัฐประหารจะอับอายไปเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่มากพอแล้ว
ส่วนความเคลื่อนไหวของนายสมัครนั้น เก็บตัวอยู่ในบ้านพัก ได้อัดรายการ "ยกโขยง 6 โมงเช้า" ซึ่งนายสมัครเป็นผู้ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม บรรดาคนรู้จักต่างทยอยเข้าพบแสดงความยินดีที่บ้านเป็นระยะ จนกระทั่งเวลา 13.40 น. นายสมัครได้เดินทางมาที่ตลาดนางเลิ้งเพื่อจ่ายตลาด
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 08.30-09.30 น. นายสมัครจะดำเนินรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 และวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ รูปแบบจัดรายการสดทุกสัปดาห์ไม่มีผู้ดำเนินการ และนายสมัครจะพูดคนเดียวเกี่ยวกับภารกิจของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ทำในแต่ละรอบสัปดาห์"เฉลิม"คิดถึง"ทักษิณ"
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคิดถึงอยากให้กลับโดยเร็ว และย้ำกับสื่อมวลชนถึงเรื่องการกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จำเป็นต้องถามจากกองทัพ เพราะคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หมดภารกิจแล้ว จึงไม่เกี่ยวข้องถือเป็นสิทธิหาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถือสัญชาติไทยเช่นกัน
จวก คตส.คดีเดียว พูดซ้ำซาก
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ช่วงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้คุยกับตนเพราะเหตุการณ์ทุกอย่างได้สงบและยุติลงแล้ว ดังนั้น จะไม่มีใครอาฆาตมาดร้ายหรือเช็กบิลใคร และขอย้ำว่าการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนข้าราชการของกระทรวงมหาดไทยที่อยู่ตรงข้ามพรรคพลังประชาชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ขอให้รู้ไว้ว่าเหตุการณ์ตรงนั้นเลิกไป และการทำงานในยุคตนจะไม่มีสิงห์ดำ สิงห์แดง
เมื่อถามว่าได้มีการประสานงานก่อนเดินทางกลับหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยโทรหา มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ โทรหา และที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่อกันหรือโทรมาแสดงความยินดี ซึ่งส่วนตัวอยากให้กลับมาโดยเร็วที่สุด และจะไปรับที่สนามบินพร้อมส่งถึงประตูบ้าน ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 เนื่องจากประเทศเป็นประชาธิปไตยแล้ว จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ทุกวันนี้ที่ปัญหายังไม่สงบ เพราะคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ช่างพูด คดีเดียวแถลงมาเป็นร้อยครั้งปัดนิรโทษ111คน รอแถลงนโยบายก่อน
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะพิจารณาแก้กฎหมายและนิรโทษกรรม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลยังบริหารบ้านเมืองไม่ได้ จะต้องมีการแถลงนโยบายก่อน หลังจากนั้นค่อยแสดงความเห็น นอกจากนี้ ฝ่ายค้านชุดนี้ก็ดูเราทำงานอยู่ ดังนั้น ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งตั้งแต่เริ่มต้น เพราะจะไม่มีเวลาทำงาน
"สมชาย"ขอตั้งหลักยัน 6 เดือนเห็นผลงาน
วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมการยกร่างนโยบายรัฐบาล ที่มี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมร่วมกับรัฐบาลทั้ง 6 พรรค โดยมีส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุมด้วย นายสมชาย ระบุว่า รัฐบาลต้องขอเวลาในการตั้งหลักทำงานอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะเห็นผลในส่วนโครงการเร่งด่วน
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า ในการหารือครั้งนี้จะเป็นการปรับเนื้อหาสาระให้ชัดเจนมากขึ้น และมีส่วนใดที่แต่ละพรรคต้องการเน้นให้มากขึ้นจะได้เพิ่มเติม เพื่อให้นโยบายนี้ทำงานได้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งการประชุมที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มเติมกันเล็กน้อย ไม่ใช่ของใหม่อะไร เพียงแต่ที่เขียนไว้แล้วยังไม่ค่อยชัดเจน ส่วนนโยบายด้านความมั่นคงไม่ค่อยมีอะไรมาก อย่างไรก็ตาม นโยบายรัฐบาลนี้มีความหลากหลายทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการน้ำ ซึ่งถือว่ามีความหลากหลายมาก
"สมชาย"ขอเวลารัฐบาลตั้งหลัก
สำหรับนโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่แล้วก็น่าจะนำมารวมเป็นนโยบายรัฐบาลนี้ แต่ทั้งนี้ตนขอเรียกว่า นโยบายเพื่อประชาชน ไม่ใช่นโยบายที่โฆษณาเพื่อให้ประชาชนชอบและเลือกเรา เพราะเป็นนโยบายที่ได้ประโยชน์ ทำได้จริงแน่นอน และต้องดูแลให้คุ้มค่ากับภาษีของประชาชนให้มากที่สุด โดยในส่วนนโยบายเร่งด่วนอาจจะเห็นผลเร็วภายใน 6-7 เดือน เพราะต้องให้รัฐบาลตั้งหลักเล็กน้อย
นายสมชาย กล่าวว่า สำหรับการหารือครั้งนี้จะพยายามทำนโยบายให้เสร็จเรียบร้อย เพื่อให้สภาพัฒน์นำกลับไปดำเนินการ ให้เสร็จทันวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ก่อนจะหารือกันในที่ประชุม ครม. วันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนการแถลงนโยบายรัฐบาล วิปรัฐบาลจะเป็นคนประสานอีกครั้งหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า มีบรรดาตัวแทนรัฐมนตรีของแต่ละพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.การคลังเชื่อ"สมัคร1"ฮันนีมูนนาน 6 เดือน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งเดินทางมาส่งนางอนงค์วรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้แนะนำอะไรในการทำงานแก่นางอนงค์วรรณ เพราะชอบปลูกต้นไม้และเก่งอยู่แล้วในเรื่องการทำงานป่าไม้ ธรรมชาติ
"เชื่อว่าการที่ ครม.ชุดนี้มีรัฐมนตรีคนใหม่ๆ อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ แต่คงไม่มีปัญหาอะไรมาก ซึ่งจะต่างจาก ครม.ที่มีรัฐมนตรีเก่าที่รู้มาก่อนแล้วมาถึงอาจจะขัดแย้งกันเลย ดังนั้น อายุรัฐบาลจึงสั้นกว่าคนใหม่ที่เข้ามาทำงาน เพราะอย่างน้อยต้องใช้เวลาตั้งหลัก 6 เดือน ซึ่งจะทะเลาะกันก็เดือนที่ 7 ก็ถือว่ามีกำไรแล้ว 6 เดือน เชื่อว่ารัฐบาลนี้คงอยู่ได้นาน"
อดีต กก.บห.พรรคไทยรักไทย ยังกล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายเสนอให้แก้ไขกฎหมายเพื่ออดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน กลับมาทำงานทางการเมืองได้นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังเสียงที่หลายคนนั้นมองเป็นสองฝ่าย แต่ตนคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องแก้ไข จะได้เปลี่ยนคนเข้าไปทำงานบ้าง และรัฐบาลก็มีคนทำงานแล้วชุดใหม่ อาจดีกว่าชุดเก่าก็ได้"เฉลิม"ประเดิมลุยใต้สกัดค้ายา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในนโยบายปราบปรามยาเสพติดและมาเฟียนั้น การทำงานปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด ต้องอาศัยความเฉียบขาด แต่ทุกอย่างอยู่ในกรอบกฎหมาย และทันทีที่รัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จ ก็จะออกเดินสายตามจังหวัดตะเข็บชายแดน เพื่อติดตามความคืบหน้าการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดที่ใช้สารตั้งต้น พร้อมทั้งให้นโยบายนายอำเภอต้องออกพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น
ด้าน พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การแก้ปัญหาราคาก๊าซหุงต้ม คงต้องบูรณาการร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยเร็ว เพราะไม่มีเวลาช่วงฮันนีมูนอีกแล้ว อยากให้ดูผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งตนจะบริหารงานเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ส่วนกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันไฟไหม้กระถางธูปศาลพ่อปู่สิงห์สุระชัยเทวะที่กระทรวงนั้น ตนไม่ถือเป็นลางร้าย เพราะเชื่อในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ หากมองทางวิทยาศาสตร์ ธูปบางชนิดติดไฟง่าย ทำให้ไฟลุกลามได้ทั้งกระถาง
ชี้ก.ม.ปิดช่องรัฐแทรกแซงไทยพีบีเอส
นายอภิชาติ ทองอยู่ โฆษกคณะกรรมการนโยบายชั่วคราวองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย กล่าวถึงแนวทางการจัดระเบียบสื่อของรัฐบาล ว่า ไม่เป็นห่วงว่าการจัดระเบียบสื่อของรัฐบาลจะกระทบต่อการดำเนินการของโทรทัศน์สาธารณะ เนื่องจากพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2550 ไม่เปิดช่องให้รัฐบาลเข้ามาใช้อำนาจแทรกแซง หรือควบคุมโทรทัศน์ช่องนี้ได้
ทั้งนี้ ยกเว้นกรณีรัฐบาลจะใช้เสียงข้างมากในรัฐสภาแก้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลคงไม่ทำ เพราะโทรทัศน์สาธารณะเป็นความต้องการของสังคม และเป็นไปเพื่อความสุขของประชาชน ดังนั้น รัฐบาลคงอยากเห็นประชาชนมีความสุข
โฆษกไทยพีบีเอส กล่าวว่า ส่วนถ้ารัฐบาลมีแนวคิดทวงไอทีวีคืนนั้น ต้องไปหาทางเอาเอง จะเปลี่ยนจากโทรทัศน์สาธารณะนั้นไม่ได้ เพราะเราดำเนินการตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ ไม่มีข้อผูกพันกับอดีตสถานีโทรทัศน์ไอทีวีใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับความพร้อมในการออกอากาศในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ นายอภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้รายการรอที่จะออกอากาศแล้ว รวมทั้งรายการข่าว และประชาชนจะได้เห็นหน้าตาของโทรทัศน์สาธารณะประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์
ปชป.หวั่นยุบพรรคลดกก.บห.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังจากการประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ที่พัทยา จ.ชลบุรี มีมติปรับโครงสร้างพรรคให้เแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อให้การบริหารจัดการภายในพรรครวดเร็วทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป โดยมอบหมายให้ นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค เป็นประธานยกร่างข้อบังคับพรรคและองค์กรบริหารจัดการพรรค ซึ่งขณะนี้ได้ยกร่างเสร็จแล้ว
โดยมีสาระสำคัญ คือ จะลดขนาดคณะกรรมการบริหารพรรคลงจากเดิมที่มี 49 คน เหลือ 15-19 คนเท่านั้น เพื่อพรรคจะได้ควบคุมดูแลกรรมการบริหารพรรคได้ง่ายขึ้น ไม่ให้มีพฤติการณ์ทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.พรรคการเมือง และ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่มีโทษรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค
ส่วนโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ จะประกอบไปด้วย 1.หัวหน้าพรรค 2.รองหัวหน้าพรรคฝ่ายการเมือง 3.รองหัวหน้าพรรคฝ่ายบริหาร 4.รองหัวหน้าพรรคคุมโซน 8 คน 5.รองเลขาธิการพรรคฝ่ายบริหาร 6.รองเลขาธิการพรรคฝ่ายการเมือง 7.เหรัญญิก 8.นายทะเบียนพรรค 9.โฆษกพรรค
นายถาวร กล่าวถึงการยกร่างข้อบังคับพรรคและองค์กรบริหารจัดการพรรค ว่า ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจาก ส.ส.ของพรรค จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และจะยกร่างให้แล้วเสร็จไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก่อนเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาปรับปรุงแก้ไขให้ได้ข้อยุติ และจะนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญของพรรคในช่วงเดือนเมษยายนนี้
ปรับโครงสร้างสู่ระบบไพรมารีโหวต
นายถาวร กล่าวว่า การลดขนาดคณะกรรมการบริหารพรรคลงเหลือ 15-19 คน มีคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครการเลือกตั้งทุกระดับ ที่จะนำไปสู่ระบบไพรมารีโหวต เพราะตามข้อบังคับพรรคใหม่ ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งทุกระดับ จะถูกเสนอโดยสมาชิกพรรคในเขต หรือพื้นที่เลือกตั้งนั้นๆ เพื่อให้กรรมการสาขาพรรคพิจารณา และนำเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครฯ ก่อนที่จะส่งให้คณะกรรมการบริหารพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มี ส.ส.ในพรรคมองว่า การลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคลง เพื่อที่ผู้บริหารชุดนี้จะควบคุมอำนาจเด็ดขาดภายในพรรค นายถาวร กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นการลดลงเพื่อให้ควบคุมพฤติกรรมที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย อาจทำให้มีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้ และยังสามารถทำความเข้าใจกันได้ง่าย ที่สำคัญทำให้การบริหารจัดการภายในพรรคเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนคณะผู้บริหารพรรคจะมีข้อบังคับพรรคหรือไม่ จะต้องนำไปถกกันในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค คาดว่าจะมีคงมีจำนวน 7-8 คนเท่านั้น
ต่อข้อถามว่า โครงสร้างพรรคใหม่ คาดว่าจะประกาศใช้ได้เมื่อไร นายถาวร ตอบว่า คงประมาณช่วงกลางปี 2551 ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างบริหารใหม่จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะตัวแทนของพรรคที่สมัคร ส.ส.มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่จริง และจะทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง