ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า หลังจากที่ที่ประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคมีมติปรับโครงสร้างพรรคให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อให้การบริหารจัดการภายในพรรครวดเร็วทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป โดยมอบหมายให้นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค เป็นประธานยกร่างข้อบังคับพรรคและองค์กรบริหารจัดการพรรคนั้น ขณะนี้นายถาวรได้ยกร่างเบื้องต้นเสร็จแล้ว มีสาระสำคัญคือ จะไม่ให้มีคณะผู้บริหารพรรคอีก จากเดิมที่มีคณะผู้บริหารพรรค 19 คน และจะลดขนาดคณะกรรมการบริหารพรรคลง จากเดิมมี 49 คนเหลือ 15-19 คนเท่านั้น เพื่อพรรคจะได้ควบคุมดูแลกรรมการบริหารพรรคได้ง่ายขึ้น และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีโทษรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค สำหรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่จะประกอบไปด้วย 1. หัวหน้าพรรค 2. รองหัวหน้า พรรคฝ่ายการเมือง 3. รองหัวหน้าพรรคฝ่ายบริหาร 4. รองหัวหน้าพรรคคุมโซน 8 คน 5. รองเลขาธิการพรรคฝ่ายบริหาร 6. รองเลขาธิการพรรคฝ่ายการเมือง 7. เหรัญญิกพรรค 8. นายทะเบียนพรรค 9. โฆษกพรรค
“ถาวร” เผยใช้ข้อบังคับใหม่กลางปีนี้
นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยกร่างข้อบังคับพรรคและองค์กรบริหารจัดการพรรคว่า ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจาก ส.ส.ของพรรคจนถึงวันที่ 8 ก.พ. และจะยกร่างให้เสร็จภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก่อนเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ได้ข้อยุติ จากนั้นจะนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญของพรรคในช่วงเดือน เม.ย.นี้ แล้วจึงนำส่งให้นายทะเบียนพรรครับรอง สาระ สำคัญของโครงสร้างใหม่จะทำให้เป็นองค์กรบริหารจัดการ เป็นแบบสมัยใหม่ เป็นการบริหารในแนวราบ ย่อรูปแบบโครงสร้างให้เล็กลง ลดงานที่ซ้ำซ้อน ทำให้มีประสิทธิภาพ บริหารจัดการได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งจะลดขนาดคณะกรรมการ บริหารพรรคลงเหลือ 15-19 คน มีคณะกรรมการคัดเลือก ผู้สมัครเลือกตั้งทุกระดับ ซึ่งจะนำไปสู่ระบบไพรมารีโหวต เพราะตามข้อบังคับพรรคใหม่ผู้ที่จะลงสมัครเลือกตั้งทุกระดับจะต้องถูกเสนอโดยสมาชิกพรรคในเขตหรือพื้นที่เลือกตั้งนั้นๆ เพื่อให้กรรมการสาขาพรรคพิจารณา และนำเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ก่อนที่จะส่งให้คณะกรรมการบริหารพิจารณา นอกจากนี้จะมีคณะกรรมการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่อุดมการณ์ของพรรค
รับหวังลดความเสี่ยงคดียุบพรรค
ต่อข้อถามว่า มี ส.ส.ในพรรคมองว่าการลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคลง เพื่อที่ผู้บริหารชุดนี้จะได้ควบคุมอำนาจเด็ดขาดภายในพรรค นายถาวรตอบว่า ไม่ใช่ แต่เป็นการลดลงเพื่อให้ควบคุมพฤติกรรมที่ส่อไปในทางผิดกฎหมายที่อาจทำให้มีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้ และยังสามารถทำความเข้าใจกันได้ง่าย ที่สำคัญทำให้การบริหารจัดการภายในพรรคเป็นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อถามว่า ตามร่างข้อบังคับพรรคใหม่มีการยุบคณะผู้บริหารพรรคใช่หรือไม่ นายถาวรตอบว่า คณะผู้บริหารพรรคจะมีหรือไม่จะต้องนำไปถกกันในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ถ้าจะให้มีต่อไปก็คงมีจำนวน 7-8 คนเท่านั้น เมื่อถามว่า เมื่อใช้โครงสร้างพรรคใหม่แล้วคิดว่าจะทำให้สามารถชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าจนได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายถาวรตอบว่า เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้ง เพราะตัวแทนของพรรคที่สมัคร ส.ส.มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่จริงๆ และยังจะทำให้ พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง