คมช.แถลงปิดฉากยุติบทบาท

เมื่อเวลา 07.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

พร้อมด้วย พล.อ. บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.และสมาชิก คมช. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการ คมช. พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. เข้าร่วมหารือ และรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน ขาดเพียง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.และสมาชิก คมช. ที่ติดภารกิจ การตรวจเยี่ยม จึงได้ส่ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมหารือแทน ก่อนจะแถลงยุติบทบาทของ คมช.อย่างเป็นทางการ
 

จากนั้นเวลา 08.00 น. พล.อ.อ.ชลิต พร้อมสมาชิก คมช. ได้ร่วมแถลงผลการทำงานของ คมช.ว่า

บัดนี้ ประเทศไทยกลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างสมบูรณ์ตามระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 จนกระทั่งสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีร่วมกัน และการก้าวต่อไปข้างหน้าอย่าง ราบรื่นเรียบร้อย


พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า หลังการปฏิรูปวันที่ 19 กันยายน 2549 เพียง 11 วัน มีรัฐธรรมนูญ 2549 (ฉบับ ชั่วคราว) ได้ประกาศใช้เพื่อกำหนดกลไกชั่วคราวที่เหมาะสม สำหรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน

ได้แก่ จัดตั้งรัฐบาล จัดตั้งองค์กรอิสระต่างๆที่ขาดอยู่ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ผ่านมา คมช.มิได้เข้าไปก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ทั้งฝ่ายบริหาร คือรัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ คือศาล แม้จะมีเสียงเรียกร้องอยู่บ้าง ทั้งนี้ เพื่อให้การคืนอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างเรียบร้อยและเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด คมช.ยืนยันว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างบนพื้นฐานความถูกต้อง มีกฎหมายรองรับ และเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ ยอมรับว่าภาพรวมยังไม่สามารถทำให้เกิดผลสูงสุดตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ทุกประการ เพราะหลายปัญหาจำเป็นต้องใช้เวลา กลไก ทั้งกฎหมายและองค์กรรัฐ ตลอดจนความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทำให้ไม่สามารถเห็นผลได้ใน ระยะเวลาสั้น
 



ขออภัยคนไทยพร้อมตำหนิตัวเอง


“คมช.คาดหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีจริยธรรม มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี ยึดมั่นต่อกฎหมาย แก้ไขปัญหาความแตกแยกในสังคม แก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติ ตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และตามพันธะในการหาเสียงเลือกตั้ง ตลอดจนนโยบายของพรรค ที่ถือว่าประชาชนส่วนใหญ่รับรู้และเห็นชอบแล้ว เพื่อป้องกันมิให้ชาติกลับสู่สถานการณ์ที่บอบช้ำเช่นในอดีต และไม่เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คมช.ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ พลเรือน องค์กรอิสระต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้น ตลอดจนประชาชนชาวไทยที่ช่วยกันประคับประคองประเทศชาติ จนก้าวเดินมาอยู่ ณ ปัจจุบัน หากมีการกระทำใดๆ ที่มีผลกระทบต่อประชาชน คมช.ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้” พล.อ.อ.ชลิตกล่าว 

เมื่อถามว่า อยากพูดอะไรกับประชาชนก่อนจบภารกิจ และหากย้อนเวลาจะแก้ไขสิ่งไหน หรือจะปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า
 
ไม่ขอพูดตรงนั้น แต่ขอขอบคุณประชาชนติดตามการปฏิบัติงานของ คมช. บางครั้งเราไม่สามารถทำอะไรได้ 100% บางครั้งอยากทำตรงนั้นตรงนี้ หรืออะไรหลายๆอย่าง เราทำไม่ได้ด้วยสิ่งแวดล้อม และสภาวะแวดล้อมที่มีอยู่ คิดว่าประชาชาชนทุกคนจะเข้าใจว่า สิ่งที่ปฏิบัติมา เราไม่ได้มุ่งหวังอยากจะมีอำนาจ เราพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด แต่มันทำได้ไม่ 100% ตามที่ใจมุ่งหวัง สิ่งเหล่านี้จะไปเรียกร้องหรือไปตำหนิใครไม่ได้ หากจะตำหนิขอตำหนิตัวเองที่ไม่สามารถทำได้  


เมื่อเวลา 13.00 น. ที่แหล่งชุมนุมนายทหาร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกายกเลิกกฎหมายระงับให้ความช่วยเหลือทางด้านทหารกับกองทัพไทย ภายหลังคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การยกเลิกกฎหมาย แต่ประเด็นอยู่ที่เขายอมรับประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้น การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ระหว่างไทยและสหรัฐฯ ก็จะดีขึ้น และจะส่งผลทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศแนบแน่นมากขึ้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์