ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ว่า
วันนี้ถือเป็นวันดีเพราะเป็นวันขึ้นปีใหม่ ของจีนจึงเริ่มทำงานในวันนี้ และ ครม.ก็ต้องเริ่มทำงานหลังจากที่ประเทศเว้นจากการมี ครม.ที่มาจากการเลือกตั้งมาเป็นเวลายาวนาน โดยปัญหาที่เราได้รับทราบจากประชาชนในช่วงการณรงค์หาเสียงและช่วงที่ผ่านๆมา รัฐบาลก็จะต้องช่วยกันเร่งรัดเพื่อแก้ไขปัญหา ทั้งปัญหาระดับรากหญ้า เศรษฐกิจในประเทศ เศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยตนได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องการลงทุนภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีไอซีทีที่ต้องนำมาผสมผสานกัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า
เมื่อถามว่า จะเริ่มสานต่อนโยบายกองทุนหมู่บ้านและเอสเอ็มแอลเมื่อใด
นายสุวิทย์ตอบว่า เริ่มได้ทันที เพราะ การอัดฉีดเงินลงรากหญ้าเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและต้องเรียกความมั่นใจของภาคเอกชน เพื่อเพิ่มการลงทุนให้มากขึ้น เพราะจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมั่นคงยั่งยืน ภาครัฐด้านเดียวไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ จึงต้องสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม สนับสนุนภาคเอกชนเพื่อให้ประเทศมีภูมิคุ้มกัน ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากภายนอก เมื่อรวมกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็จะช่วยสร้างความมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งตนจะทำงานร่วมกับรองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ แต่ไม่จำเป็นต้องเดินสายชี้แจงนักการเงินการคลัง เพราะ รมว.คลังก็ทำหน้าที่อยู่แล้ว หากจะมอบหมายงานอะไรให้รมช.คลังทำก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช. คลัง ถูกวิจารณ์มากว่าไม่เหมาะสม จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร
นายสุวิทย์ตอบว่า ร.ต.หญิงระนองรักษ์เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นข้าราชการระดับสูงและเป็นอดีต ส.ว. จึงขอให้รอดูผลงานและต้องให้โอกาสท่าน ได้แสดงฝีมือก่อน เมื่อถามว่าการถูกมองว่าวางคนไม่เหมาะกับงานจะทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจมีความล่าช้าหรือไม่ นายสุวิทย์ตอบว่า รมช.คลังมีความเหมาะสมกับงานแน่นอน เพราะเห็นแล้วว่ารัฐมนตรีที่เป็นแทคโนแครตหรือมีรัฐมนตรีที่เป็นนักวิชาการมา บางทีก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
บางครั้งการแก้ปัญหาต้องผสานทั้งเรื่องของวิชาการด้านเทคนิค ด้านการเมืองเพราะปัญหาบ้านเมืองไม่ใช่ใช้วิชาความรู้เพียงด้านเดียว ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการแก้ปัญหา และยังไม่เห็นนักเศรษฐศาสตร์ ทางการเงินการคลังคนไหนออกมาบอกว่าไม่เชื่อมั่น ร.ต. หญิงระนองรักษ์