ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวให้สัมภาษณ์ถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า สิ่งที่รัฐมนตรีทุกคนต้องทำคือการสร้างความเชื่อมั่นและกำหนดทิศทางของการบริหารให้ชัดเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ส่วนกรณีที่รัฐบาลวางกรอบไว้ว่า ภายใน 6 เดือนจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจได้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงใช้เวลา 6 เดือนคงไม่ได้ ต้องเร็วกว่านี้ แต่คิดว่าคงเป็นกรอบเวลาที่ตั้งเอาไว้สำหรับเป้าหมายในบางเรื่อง เช่นการปรับทิศทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ถือเป็นกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงค.ร.ม.เงาของพรรคว่า
จะเปิดตัวได้ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และจะประชุมกันครั้งแรกในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งเท่าที่ดูรายชื่อของค.ร.ม.แล้ว ตนยังไม่แน่ใจว่า จำเป็นต้องมีค.ร.ม.เงาครบจำนวนหรือไม่ เพราะมีการใช้วิธีให้รองนายกรัฐมนตรีไปควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการด้วย
'ค.ร.ม.เงาทำงานค่อนข้างลำบาก เพราะไม่มีทั้งงบประมาณ และไม่มีข้าราชการสนับสนุน แต่ถือเป็นการท้าทายความสามารถของบุคคล หากวันหนึ่งคิดว่าตัวเองมีความเหมาะสมที่จะไปนั่งบริหารบ้านเมือง วันนี้จะต้องสามารถทำงานภายใต้ขอบเขตที่จำกัดให้ดีให้ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นแนวทางที่ตนคิดว่าต้องการใช้ในการสร้างบุคลากรทางการเมือง' หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า การที่มีค.ร.ม.เงานั้นฝ่ายค้านจะเป็นองค์กรในลักษณะนี้จะต้องมีความรับผิดชอบ
การจะพูดหรือวิจารณ์อะไรวันนี้จะผูกมัดตัวเองมากขึ้น และหากถามหวังไกลขนาดไหน ตนหวังไกลว่า กลไกนี้จะพิสูจน์ว่าเป็นกลไกที่มีประโยชน์ จนวันข้างหน้ากลายเป็นประเพณี ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้านจะได้ทำอย่างนี้ เพื่อให้ระบบรัฐสภาเข้มขึ้น ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ท่าดีทีเหลว ถือเป็นสิทธิที่วิจารณ์ และคนที่มีหน้าที่พิสูจน์ว่าดีหรือไม่ คือคนทำงาน ต้องพิสูจน์ด้วยการทำงานที่เป็นประโยชน์ ซึ่งในวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้ จะเสนอมุมมองของฝ่ายค้านว่า ปัญหาที่ต้องแก้ไขคืออะไร