นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
เปิดเผยหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแรกของการรับตำแหน่งว่า ตนต้องดูงานด้านสื่อ รวมถึงยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ของภาครัฐที่สำคัญ เพราะที่ผ่านมาถูกเป็นเหยื่อของการแบ่งข้าง จึงต้องเข้าไปสร้างความเป็นกลางให้สื่อ ซึ่งตนต้องเข้าไปประเมินว่า สื่อรัฐได้ให้ข้อมูลที่สมดุลและเป็นกลางจริงหรือไม่ โดยยืนยันว่า จุดนี้จะไม่กระทบการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรในองค์กร
"สื่อของรัฐทุกสื่อ รัฐบาลก็ต้องเข้าไปประเมิน และภายใน 1 เดือน ในส่วนที่ผมรับผิดชอบจะมีการวางทิศทางชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะ บริษัท อสมท. จำกัด กรมประชาสัมพันธ์ (กปส.) และไทยพีบีเอส ซึ่งความจริงอยากจะเรียกว่าไอทีวีมากกว่า นอกจากนี้ ยังรวมถึงสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมด้วย จะมาจัดระบบให้มีการเปิดวงสัมนาเอาผู้มีส่วนได้เสียมาคุยกันว่า มันเป็นดาบ 2 คมอย่างไร และรวมถึงวิทยุชุมชนด้วย ไปจนถึงที่ไม่ใช่สื่อ เช่น เอสเอ็มเอสมือถือ ซึ่งจะไปหารือกับนายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที รวมถึงจะผลักดันให้เกิดคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์แห่งชาติ( กสช.)ให้ได้ ที่ผ่านมา กสช.กลายเป็นเหยื่อของความขัดแย้งในวงการสื่อเอง หักกันไม่ลง เพราะสื่อแต่ละค่ายต่างมีประโยชน์ของตัวเอง." นายจักรภพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวถูกมองว่าเข้ามาแก้แค้นสื่อหรือไม่
นายจักรภพกล่าวว่า “ไม่กลัวเลย เพราะตนก็พร้อมถูกประเมินด้วยเช่นกัน อย่าลืมว่าบ้านเมืองกลียุคที่ผ่านมา เพราะมีสื่อบางส่วนไม่เป็นกลาง ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์ให้คนบางส่วน บางที่ยืนยันว่า งานนี้ไม่มีใบสั่ง และไม่ได้ตั้งใจไปอุ้มใครทั้งนั้น เพราะที่ผ่านมาเป็นความเสียหายประเทศ คนอยู่บ้านไม่ได้ต้องออกาประท้วงบนถนน เพราะไม่อยากดูสื่อ”
เมื่อถามว่า ไม่กลัวสงครามสื่อเกิดขึ้นหรือ นายจักรภพกล่าวว่า ไม่มองอย่างนั้น การแข่งขันระหว่างสื่อมีประโยชน์ แต่ต้องไม่ใช้วิชามารมาแข่งกัน
"ผมพร้อม เพราะงานในด้านสื่อของผมทุกอย่างก็ยุติไปแล้ว รายการและอันที่จะมีส่วนได้ส่วนเสียก็ไม่ทำ ผมทำตัวเองให้บริสุทธิ์ก่อนถึงจะมาวางนโยบายด้านสื่อได้ ดังนั้นใครที่กำลังเล่นบทบาททั้งเป็นคนออกสื่อและเป็นสื่อเสียเองก็ต้องดูให้ดี นี่ไม่ใช่ท่าทีแข็งกร้าว ไม่ได้ว่าเขาไม่ดี แต่ละไปดูว่า อะไรเกิดขึ้นที่เบี่ยงเบนไปในทางไม่ดี ขอให้ดูกันต่อไปก็แล้วกัน" นายจักรภพกล่าว