ทรท.ดิ้นพล่านข้อหาจ้างพรรคเล็กโวยปชป.สมคบใส่ร้าย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤษภาคม 2549 16:43 น.
ทรท.ดิ้นพล่านข้อสรุปอนุฯกกต.ที่ระบุชี้ชัดจ้างพรรคเล็กลงสมัคร โวย "ไทกร"รวมหัวปชป.ใส่ร้ายขุดหลุมล่อไปติดกับ "สุดารัตน์"ข้องใจผลสอบสอนทำไมไม่เรียกผู้ถูกกล่าวหาไปชี้แจง
วันนี้(13 พ.ค.) นายจตุพร พรหมพันธ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย แถลงว่า เมื่อคืนวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายไทกร พลสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคประชาชนไทย ยอมรับแล้วว่าต้องการล้มระบอบทักษิณ จึงใช้วิธีโจรทุกรูปแบบ แสดงให้เห็นชัดว่าหลักฐานที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบสวนกรณีพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กทั้งหมด ล้วนเกี่ยวข้องกับนายไทกรแทบทั้งสิ้น ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์และนายไทกร เป็นบุคคลเดียวกัน ที่ร่วมกันใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย
รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ที่มาของวีซีดีที่พรรคไทยรักไทยนำมาเผยแพร่ ก็มาจากหัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า นำไปยื่นให้ กกต.แล้วแจกจ่ายต่อสื่อมวลชน ซึ่งจากติดตามจึงรู้ที่มาของวีซีดีชุดนี้ ว่ามาจากการทำหน้าที่ของตำรวจ เนื่องจากนายไทกรได้ให้ ด.ต.น้อย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ไปหานายวรรธวริทธิ์ ตันติภิรมย์ หัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่าที่บ้าน แต่นายวรรธวริทธิ์ไม่อยู่ จึงได้ฝากเบอร์โทรศัพท์ของ ด.ต.น้อย ไว้เพื่อให้ติดต่อกลับ พร้อมกับมีการข่มขู่บุตรชายของนายวรรธวริทธิ์ ทำให้นายวรรธวริทธิ์กลัว จึงได้ไปแจ้งความกับ พล.ต.ท.ประสิทธิ์ ทำดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะที่เป็นพื้นที่ใกล้เคียงและคุ้นเคยกับเจ้าพนักงาน ซึ่งมีการระบุในใบแจ้งความว่าถูกบังคับให้ไปเป็นพยานในบางเรื่อง
นายจตุพร กล่าวว่า พล.ต.ท.ประสิทธิ์ จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รองผู้กำกับการสถานีตำบลบ้านค่าย จังหวัดชัยภูมิ ไปหาข่าว ซึ่งคนที่บันทึกวีซีดีก็คือ พ.ต.ท.รุทธพล ที่ติดกล้องไว้ในกระเป๋าเสื้อ ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามนายไทกร ภายหลังการเจรจาก็พบว่า นายไทกรได้เดินทางไปยังพรรคประชาธิปัตย์ทันที ทุกคนจึงสงสัยว่าตัวจริงของนายไทกรเป็นใครกันแน่ เพราะเชื่อว่าการดำเนินการของนายไทกรทำในนามของพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ต้น เพราะที่ผ่านนายไทกรล้วนเคลื่อนไหวทางการเมืองพร้อม ๆ กับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้น นายสุเทพ จะมาอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะนายไทกร ได้ร่วมกับนายสุเทพ ทุกกรณีที่นายสุเทพเคลื่อนไหวร้องเรียนต่อ กกต. นายไทกร ยังรู้และทราบผลการสอบสวนของอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ มาตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนแล้ว เพราะในวีซีดีระบุชัด
ขอถามไปยังศาลและอัยการ ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับนายไทกร เนื่องจากนายไทกรอ้างชัดในวีซีดี ว่าสามารถล็อบบี้ศาลและอัยการได้ การอหังการจ้างคนใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย ถือเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และชี้ให้เห็นแล้วว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ดำเนินคดีใด ๆ กับนายไทกร เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ร่วมสมคบคิดด้วย ดังนั้น ถ้าหากจะมีการยุบพรรคก็ควรยุบพรรคประชาธิปัตย์ นายจตุพร กล่าว
เมื่อถามว่า นายไทกร อ้างว่าไปหาข้อมูลการว่าจ้างพรรคเล็กลงสมัครในการเลือกตั้งรอบที่สอง นายจตุพร กล่าวยืนยันว่า พรรคไทยรักไทยไม่เคยจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเลย เรื่องนี้เป็นการจ้างพรรคเล็กเพื่อมาใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยต่างหาก เมื่อถามว่าเหตุใดพรรคไทยรักไทยจึงไม่ตรวจสอบคนของตัวเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีแกนนำพรรคออกมาพูดว่าเป็นการกระทำในนามส่วนตัว นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีแล้ว เชื่อว่าผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิคงจะส่งรายงานให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบและคงจะส่งให้ กกต.พิจารณาแล้ว
ด้านนายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรค กล่าวว่า ถ้าพรรคไทยรักไทยมีความเชื่อมั่นในผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการฯ ก็คงไม่ออกมาเรียกร้องให้มีการสอบสวนสาเหตุ ที่ผลการสอบสวนหลุดออกมา และคงไม่เรียกร้องให้ กกต.ออกมาคลี่คลายเรื่องนี้ให้กระจ่าง ทั้งนี้ ยังไม่มั่นใจว่าเอกสารผลสอบที่ถูกนำมาเผยแพร่เป็นชุดเดียวกันกับที่ส่งให้ กกต.ชุดใหญ่พิจารณาหรือไม่
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ คณะติดตามสถานการณ์การเมือง พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสมาชิกของพรรคทุกคนที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวให้สมกับที่ประกาศตัวว่าจะเป็นผู้นำแนวใหม่ ไม่ใช่นิ่งเฉยเพราะแอบรอส้มหล่นจากนายไทกร และขอตั้งข้อสังเกตจากการที่พรรคประชาธิปัตย์จัดงานระดมทุน 300 ล้าน เพื่อใช้ในการเตรียมการเลือกตั้งที่จะถึง ว่า ภายใต้วิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาบ้านเมืองที่ยังอึมครึมอยู่เช่นนี้ การจัดงานเลี้ยงเพียงคืนเดียวเพื่อให้ได้เงิน 300 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น หลังการจัดงานแล้ว ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ชี้แจงรายได้และรายจ่ายให้ชัดเจน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ว่าการดำเนินการต่าง ๆ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนและหลักการ แต่ตามกระบวนการทางกฎหมายต้องมีการเชิญผู้ถูกกล่าวหาไปชี้แจง แต่เท่าที่ทราบยังไม่มี ซึ่งตามหลักการแล้วต้องให้ความยุติธรรมและเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย อย่ามั่ว ๆ สรุปแล้วกัน เพราะในทางกลับกันก็มีพยานชี้ให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามใส่ร้ายขุดหลุมล่อพรรคไทยรักไทยเหมือนกัน