คุณสมบัติ 35 รมต.สมัคร 1การันตีไม่มีปัญหา

ขี้เหร่เพราะรัฐบาลผสม เผยสลับโผ 12 ตำแหน่งนายกฯเปิดบ้านเลี้ยงสื่อ

"สมัคร" เผยแก้โผรายชื่อ ครม.อย่างน้อย 12 ตำแหน่ง ย้ำคุณสมบัติ 35 รมต.ไม่มีปัญหา ดักคอสื่ออย่างเพิ่งรีบวิจารณ์ก่อนจะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ อ้างรัฐนาวาพันธุ์ผสมเป็นเหตุ ครม. ขี้เหร่ ระบุชัด “พผ.” หวงก้าง รมช.คลัง ทำให้ “น้องอ๋อย” วืดทำงานถูกตำแหน่ง พฤติกรรม “ลุงหมัก” เปลี๊ยนไป๋ ! พรั่งพรูคำขอโทษ แถมนัดสื่อไทยยกโขยงกินข้าวบ้านนายกฯ ชิมไปบ่นไป ลั่นขอเป็นนายกฯ เดินดิน ไม่ต้องมีรถหวอนำขบวน แจงแก้ปัญหา ส.ส.อีสานทวงเก้าอี้แล้ว “พีทีวี” แห่เข้าบ้านโอฬาร ส่วน “เด็กเนวิน” หยันอีสานเหนือโชว์สปิริตหลังทำพลาดเป้า ฝ่ายคนอกหัก “รมต.” กดดันขอประธาน กมธ. แทน ขณะที่ “พผ.” ฮึ่ม รมช.คลัง ของข้าใครห้ามแตะ แบะท่าแบ่งเค้กประธาน กมธ. แล้ว ด้าน “ครม.เงา” เตรียมลับฝีปากวันแถลงนโยบายรัฐบาลหมัก 1 เขี่ยชื่อ “นิพนธ์ พร้อมพันธุ์” พ้น ครม.เงา อ้างไม่จบปริญญาตรี ฟาก “บุญรอด” ชี้ พ.ร.บ.จัดระเบียบ กห. ไม่ได้ตีกัน “หมัก” ควบเก้าอี้ ยันต่อไปนี้การเมืองแก้โผโยกย้ายกองทัพไม่ได้อีกแล้ว


ครม.ชมพู่คุณสมบัติสอบผ่าน
 
 เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่บ้านพักหมู่บ้านโอฬาร ถนนนวมินทร์ 81 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เดินออกจากบ้านพักมาพูดคุยกับสื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าวอยู่บริเวณข้างบ้านด้วยตัวเอง โดยนายสมัคร ที่มีท่าทางอารมณ์ดีได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อคณะ รัฐมนตรีว่า เลขาธิการ ครม. ได้ยืนยันมาแล้วว่ารายชื่อรัฐมนตรีครบถ้วนแล้วไม่มีปัญหา และ ขณะนี้ไม่อยากให้วิพากษ์วิจารณ์ถึงบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรี เพราะอยากให้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเสียก่อนแล้วค่อยมาพูดกัน สำหรับขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องไปถามฝ่ายทำเนียบรัฐบาล เพราะเป็นผู้ดำเนินการ
 
ส่วนกรณีที่ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประ เทศว่าหน้าตา ครม. อาจจะไม่สวยนั้น นายกฯ กล่าวยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา บางครั้งตนรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยให้โอกาสตน แต่ก็พูดไม่ได้เพราะเราเชิญเขามาร่วมรัฐบาลแล้ว


“หมัก” โอดพรรคร่วมทำขี้เหร่

 นายสมัคร ยกตัวอย่างว่า พรรคเพื่อแผ่นดิน ต้องการให้ภรรยาของว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี เป็น รมช.คลัง แต่ตนอยากให้น้องชายของนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นมากกว่า เพราะนายจาตุรนต์เก่งเรื่องงบประมาณและการเงินการคลัง ซึ่งเขาน่าจะให้โอกาสตน แต่เขาก็บอกว่าไม่ได้ จนถึงป่านนี้แล้วก็ไม่ได้ ส่วนเหตุผลในการควบ รมว.กลาโหม อีกหนึ่งตำแหน่งก็จะขอชี้แจงในภายหลัง เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการ เดี๋ยวทหารจะมาเขม่นตน แต่ตนตั้งใจจะทำดี อยากให้มีความสงบเรียบร้อย
 
ต่อข้อถามว่า มั่นใจว่าจะสร้างความสมาน ฉันท์ให้เกิดขึ้นในกองทัพได้ใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ตนไม่ต้องการอวดอ้าง กองทัพไม่ต้องการให้มีใครไปจัดการหรือเบี่ยงเบนอะไร กองทัพก็จะได้อยู่กันอย่างสบาย ผบ.ทบ. ก็อยู่ 3 ปี เราเป็นคนกลางไปทำความเข้าใจ ไม่ได้อยู่รุ่นไหน


ฟุ้งเคลียร์ปัญหาส.ส.อีสานแล้ว

 เมื่อถามว่า ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกระ ทรวงกลาโหม ฉบับใหม่ การย้ายนายพลต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการของกระทรวง กลาโหม ซึ่งถูกมองว่าเป็นการสกัดกั้นไม่ให้การเมืองเข้าไปล้วงลูก นายสมัคร กล่าวว่า จะทำอะไร ก็ทำเลย เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะไปล้วงลูกอยู่แล้ว จะมาสกัดกั้นทำไม ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจจะไปบ้านเขา แล้วมาปิดประตูใส่หน้าเราทำไม
 
ส่วนกรณี ส.ส.อีสาน ไม่พอใจเรื่องการจัดสรรโควตารัฐมนตรีนั้น นายกฯ กล่าวว่า คืนวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมาได้พูดคุยทำความเข้าใจโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อถามย้ำว่า ส.ส.อีสานเข้าใจดีขึ้นหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า จะดีได้อย่างไร เพราะเขาไม่ได้อย่างที่ต้องการ แต่ ก็พอสมควร เพราะเป็นพรรคใหญ่ก็ต้องมีปัญหา บ้าง ตนเคยเป็นหัวหน้าพรรคมี ส.ส. 36 คน ไม่มีปัญหา พอมาเป็นหัวหน้าพรรคที่มี ส.ส. 233 คนก็ต้องมีปัญหาบ้างแต่ไม่มาก


ยอมรับสลับโผรมต.12ตำแหน่ง

 “ไม่อึดอัดหรอก ผมสบายดี ผมหายใจโล่ง และมีอย่างน้อย 12 ตำแหน่งที่ผมสับเปลี่ยน ซึ่ง ครม. หน้าตาไม่สวยหรอก แต่ขี้เหร่นิด หน่อย ทั้งนี้ผมจะทำงานอย่างสบาย ๆ ส่วนจะทำหน้าที่ได้นานแค่ไหน ผมก็จะพยายามอย่างที่พูดไว้คือ ครม. อยู่ด้วยกันเหมือนคนในครอบครัว ผมจะพยายามทำให้เขาอยู่ ไม่ต้องกลับไปสู่สนามรบเร็วจนเกินไป” นายกฯ ระบุ
 
นายสมัคร กล่าวต่อว่า ต้องขออภัยที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนญี่ปุ่น ทั้งเรื่องการควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม และหน้าตาของรัฐบาลที่ไม่ขี้เหร่ เพราะคิดว่าสื่อญี่ปุ่นจะนำไปออกที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียว จนทำให้ถูกต่อว่าจากสื่อมวลชนไทย ความจริงแล้วตนตั้งใจว่าจะให้ถึงเวลา อันสมควรก็จะพูดคุยกับสื่อมวลชนไทย ตามที่ ได้สัญญากันไว้ว่าเมื่อรายชื่อ ครม. เสร็จเรียบร้อย จะทำกับข้าวให้ทาน และวันที่ 3 ก.พ. เวลา 11.00 น. ขอเชิญสื่อมวลชนไทยร่วมรับประทานอาหารกลางวันและพูดคุยอย่างเป็นกันเองทุกเรื่องยกเว้นเรื่อง ครม.


มาดใหม่ขอโทษสื่อ-เลี้ยงอาหาร

 นายกฯ ชิมไปบ่นไป กล่าวด้วยว่า จะลงมือทำอาหารเลี้ยงสื่อมวลชนไทยด้วยตัวเอง คือ ตือฮวน ก๋วยเตี๋ยวแขก ซึ่งรสชาติอร่อยกว่าที่อื่น นอกจากนี้จะมีข้าวเหนียวยัดไส้ ขนมจีนแกงลูกชิ้นปลากราย และจะแจกหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก  “สมัคร 60” ด้วย
 
“ผมต้องขออภัยผู้สื่อข่าวไทย สมควรที่จะต้องโกรธผม ขออภัยจริง ๆ ไม่คาดคิดว่าข่าว จะออกไปอย่างนี้ พวกเราสมควรจะโกรธผม เพราะ เหมือนกับว่าไม่พูดกับสื่อไทย แต่กระแดะไปพูดกับสื่อฝรั่ง เพราะคิดว่าที่มาสัมภาษณ์จะไปออกที่ญี่ปุ่น ถามกันเก่ง ๆ ทั้งนั้น เมื่อออกมาเป็นข่าวออกมา ผมก็เสียหาย ต่อไปนี้ก็ต้องระมัดระวังและต่อไปก็ไม่อยากให้นักข่าวมานั่งตากแดด ตากฝนรอผมที่บ้าน แต่จะให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกิจจะลักษณะในที่ที่เหมาะสม อย่างวันนี้ไม่ออกไปไหนจะนั่งเขียนหนังสืออยู่กับบ้าน” นายสมัคร กล่าวถึงแนวทางในการทำงานกับสื่อมวลชนไทย


ลั่นเป็นนายกฯแบบคนธรรมดา

 นายกฯ คนใหม่ ยังกล่าวถึงการทำงานในตำแหน่งนายกฯ ว่า จะไม่ใช้รถนำขบวนแต่จะใช้รถ รปภ. ตามหลังเพียงคันเดียว เพราะสมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ไม่ใช้รถนำ ทำให้ประ หยัดงบไป 5 แสนบาทต่อปี ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เป็นนายกฯ ต้องมีชุด รปภ. นายสมัคร กล่าวว่า รถคันหน้าจะแก้ไขอะไรได้ ปืนก็ไม่มี จะทำอะไรได้ ไปไหนก็จะไปเป็นคณะเล็ก ๆ เพราะนายกฯ ประเทศอื่น ๆ ไปซื้อของที่ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ก็ไม่มีคนติดตามมากมาย เพราะฉะนั้นตนก็จะไม่ทำอะไรเป็นพิเศษเพิ่มเติม เวลาไปต่างประเทศก็จะซื้อตั๋วเครื่องบินพาณิชย์แบบปกติ
 
ส่วนจะมีการประชุม ครม.สัญจรหรือไม่นั้น นายสมัคร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไกลเกินไปที่จะพูด แต่จะมีนายกฯ สัญจร จะไป จ.ขอนแก่น เป็นจังหวัดแรก เพราะน้อยเนื้อต่ำใจว่าเราสนใจน้อยเกินไปก็เลยจะไปเยี่ยม โดยจะไปเป็นคณะเล็ก ๆ 4-5 คน ส่วนรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ที่จะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ก็จะเริ่มหลังจากเข้าไปทำงานที่ทำเนียบฯ แล้ว


ทีมงาน “พีทีวี” แห่เข้าหาหมัก

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นในช่วงเช้า นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.แบบสัดส่วน กลุ่ม 6 และนายธีรพล นพรัมภา ว่าที่เลขาธิการนายกฯ ได้เข้าพบนายสมัคร ที่บ้านพักโดยใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นนายสมัคร เปิดเผยว่า กลุ่มของนายวีระ มาพบเพื่อขอ ถ่ายทอดการแถลงนโยบายของรัฐบาลผ่านโทร ทัศน์เอ็มวีทีวี ซึ่งตนไม่ขัดข้อง เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์
 
ต่อข้อถามว่า กลุ่มของนายวีระ เป็นอดีต ผู้บริหารพีทีวีที่มีปัญหากับกรมประชาสัมพันธ์อยู่ นายสมัคร ย้อนว่า แล้วเอเอสทีวีมีปัญหาหรือไม่ เอเอสทีวีบอกว่าศาลคุ้มครอง แล้วคนอื่นได้รับความคุ้มครองด้วยหรือไม่ เพราะเป็นลักษณะเดียวกัน หากอะไรไม่ถูกต้องเราก็ออกกฎหมายเสียตอนนี้เพื่อให้ทุกอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
 
ขณะที่นายวีระ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มาพบ นายสมัครเพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพียงแต่มาพบเพื่อมาเยี่ยมและแสดงความยินดีกับ นายสมัครหลังได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ

เย้ยอีสานเหนือทำงานพลาดเป้า

 นายพงศกร อรรณพพร แกนนำภาคอีสาน พรรคพลังประชาชน ที่มีชื่อติดโผเป็นรัฐมนตรีในโควตากลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ ให้สัมภาษณ์กรณี กลุ่ม ส.ส.อีสานเหนือ 30 คน เข้าพบนายสมัครว่า ส.ส.อีสาน อยู่กันเป็นระบบภาค ไม่มีกลุ่ม ไม่มีมุ้ง และ ส.ส.อีสานของพรรคพลังประชาชนทั้งหมดก็เป็นคนใกล้ชิดนายเนวินด้วยกันทั้งสิ้น ไม่เฉพาะแค่ 3-4 คนที่มีชื่อออกมาเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น และไม่ได้เป็นโควตาเฉพาะกลุ่มที่ใกล้ชิดนายเนวินแน่นอน แต่คนที่มีชื่อเป็นรัฐมนตรีน่าจะเป็นเพราะทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่แกนนำพรรค คนที่ยังไม่มีชื่ออาจเป็นเพราะทำผลงานได้ไม่ตามเป้าหมาย ใครที่ยังมีปัญหาอยู่ก็คงต้องแสดงสปิริต
 
แกนนำภาคอีสานรายนี้ กล่าวอีกว่า ส่วน ที่มี ส.ส. บางคนไปเข้าพบนายสมัครนั้นอาจจะเข้าใจว่าภาคอีสานคงได้โควตารัฐมนตรีน้อยเกินไป และคงจะต้องการได้รับโควตารัฐมนตรีเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ แต่บางคนก็เป็น ส.ส.เก่าของพรรค การเมืองอื่นและเพิ่งมาอยู่พรรคพลังประชาชน จึงอาจจะยังไม่รู้ว่าระบบการเมืองที่พรรคพลัง ประชาชนเป็นอย่างไร


รุกขอโควตา “ปธ.กมธ.” แทน

 รายงานข่าวจากกลุ่ม ส.ส.อีสาน พรรคพลังประชาชน แจ้งว่า ในการหารือกับนายสมัครในคืนวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากรับฟังเหตุผลในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีจากนายสมัครแล้ว ทางกลุ่ม ส.ส.อีสาน จึงได้ต่อรองขอตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเป็นการชดเชยให้กับกลุ่ม ส.ส. อีสานทั้ง 40 คน ที่ผิดหวังไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยขอใช้สัดส่วน ส.ส. 15 คนต่อ 1 ประธาน กมธ. นอกจากนี้ยังได้ยื่นข้อเสนอให้แก้ระเบียบข้อบังคับของสภาให้เพิ่มคณะกรรมาธิ การสามัญอีก 3 คณะจากเดิม 31 คณะเป็น 34 คณะ โดย กมธ.ที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย กมธ. บรรเทาปัญหาฉุกเฉินภัยพิบัติทางธรรมชาติ กมธ. แก้ไขปัญหาภัยแล้ง และ กมธ.ป้องกันปัญหาอุทกภัย เพื่อเป็นการตอบสนองให้มีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้กับคนภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นายสมัครได้รับปากที่จะผลักดันให้มีการเพิ่ม กมธ.อีก 3 คณะแล้ว


“บิ๊กต๋อย” ชี้โยกทหารสูตรเดิม

 พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึง พ.ร.บ. จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมว่า กระทรวงกลาโหม มีกฎนี้อยู่แล้วไม่ใช่เพิ่งมี สำหรับการโยกย้ายทุกครั้ง รมว.กลาโหม จะคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ ก่อนที่จะตัดสินใจโยกย้ายหรือแต่งตั้งใครทำให้ไม่มีปัญหา แต่หาก รมว.กลาโหม คุยกับ ผบ.เหล่าทัพ ไม่รู้เรื่องก็อาจจะยุ่ง “ผมมองว่าการออก พ.ร.บ. นี้มาคงไม่ได้ต้องการแกล้งหรือปิดทางคุณสมัคร เพราะพ.ร.บ.นี้ก็เป็นสูตรดั้งเดิมอยู่แล้วที่เราทำ มาทุกปีทุกครั้ง”
 
อดีต ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวอีกว่า หากนายสมัครมาเป็น รมว.กลาโหม ก็เชื่อว่าจะคุยกับทหารได้ อย่าไปคิดว่าจะทำให้กองทัพแตกแยก และท่านอาจเรียก ผบ.เหล่าทัพ มาหารือร่วมกันในเร็ว ๆ นี้ ส่วนกระแสข่าวการโยกย้าย ผบ. เหล่าทัพนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะส่วนใหญ่    จะเกษียณกันหมดในปีนี้ สำหรับตนแม้จะไม่มีตำแหน่งก็ไม่เป็นไร สามารถทำงานเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านความมั่นคงได้ดูแลปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ได้


“พผ.” ตีตราจอง “รมช.คลัง”

 นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า โผรายชื่อ ครม. ในสัดส่วนของพรรคมีความชัดเจนแล้ว สำหรับ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ส.ส. นครราชสีมา ภรรยา ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี จะได้เป็น รมช.คลัง อย่างแน่นอน และในพรรคก็ไม่มีใครติดใจในตำแหน่งนี้
 
วิปรัฐบาลชั่วคราว เปิดเผยด้วยว่า หลังการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. จากนั้นจะเป็นการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาฯ ต่อด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในกรณีต่าง ๆ ซึ่งตามข้อบังคับเดิมจะมีคณะกรรมาธิการทั้งสิ้น 31 คณะ แต่เท่าที่ทราบวิปรัฐบาลชั่วคราวอาจมีการประชุมเพื่อลดจำนวนลงเหลือ 25 คณะ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็จะไม่เพียงพอต่อการสนองตอบต่อความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้พรรคเพื่อแผ่นดินจะได้สัดส่วนประธาน กมธ. 2 คณะ พรรคพลังประชาชนได้ 15 คณะ ส่วนตัวมองว่าการจัดสรรโควตา กมธ. ต้องทำอย่างรอบคอบและเท่าเทียมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นได้


ครม.เงาเดินเครื่องฟัดนโยบาย

 ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้ง ครม. เงา เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลว่า วางตัวไว้ครบหมดแล้ว แต่อาจประสบปัญหาในการทำงานบ้าง เพราะไม่มีกฎหมายรองรับและไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะดึงภาคราชการเข้าร่วม แต่ถือเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติในประเทศที่มีการปกครองระบบรัฐสภา เพื่อให้เกิดกลไกการตรวจสอบมีความเข้มแข็ง รักษาผลประโยชน์ของประชาชน และเป็นการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ส่วนตัว อยากเห็นการทำงานในลักษณะนี้เป็นประเพณีแบบอย่างต่อไปในอนาคตด้วย
 
เมื่อถามว่า มีบุคคลภายนอกเข้าร่วม ด้วยหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังมีข้อจำกัดอยู่ในการดึงคนนอกพรรคเข้าร่วม แต่มีหลายคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. และบางคนก็มาเป็นคณะกรรมการนโยบายด้านต่าง ๆ ของพรรคอยู่แล้ว โดยการทำงานจะตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกกระทรวง งานแรกจะเป็นการเตรียม ความพร้อมในการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา


“มาร์ค” หนุนกระตุ้นศก.ยั่งยืน

 นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลประกาศฟื้นนโยบายประชานิยมและจะฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใน 6 เดือนว่า เห็นด้วยที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพราะเป็นเรื่องสำคัญในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แต่ต้องดูรายละเอียดด้วยว่าจะมีการเสนอโครงการในลักษณะใด มาแก้ไขปัญหา เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถ ใช้เม็ดเงินอัดฉีดลงไปได้ แต่จะทำให้เกิดประโยชน์ กับประเทศอย่างยั่งยืนหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนนโยบายประชานิยมใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
 
เมื่อถามถึง กรณีที่กระทรวงกลาโหมออกกฎหมายให้มีการตั้งคณะกรรมการมาดูแลการ โยกย้ายนายทหารระดับนายพลเพื่อป้องกันการเข้าไปแทรกแซงกองทัพ หัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลสามารถขับเคลื่อนนโยบาย และทำความเข้าใจกับกลไกราชการต่าง ๆ รวมถึงกองทัพได้โดยไม่เข้าไปแทรกแซงกองทัพก็เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหา


เด้ง “เสี่ยนิพนธ์” พ้น ครม.เงา

 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการคาดการณ์ของสื่อมวลชนในเรื่องรายชื่อ ครม.เงา ของพรรคประชาธิปัตย์มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงพอสมควร นายนิพนธ์ พร้อม พันธุ์ ที่สื่อคาดเดาว่าจะเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะนายนิพนธ์เรียนไม่จบปริญญาตรี จึงขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ทั้งนี้พรรคจะประกาศ ครม.เงา หลังจากมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.จริงแล้ว 2-3 วัน เพื่อไม่ให้เกิดภาพของการแข่งขันกัน แต่ยืนยันว่า ครม.จริงขี้เหร่กว่า ครม.เงา แน่ เพราะ ครม.จริงเอาคน 2 ประเภทมาเป็นรัฐมนตรี คือ ประเภทตัวแทน และประเภทต่างตอบแทน
 
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว ถึงกลุ่ม ส.ส.อีสาน พรรคพลังประชาชน ไม่พอใจการจัดสรรโควตารัฐมนตรีว่า อยากตั้งข้อสังเกต ว่าเมื่อมีข่าวออกมาแบบนี้อาจทำให้ ครม. ของนายสมัครมีปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้ ส.ส.กลุ่มนี้แสดงจุดยืนและให้เหตุผล มิฉะนั้น จะถูกตราหน้าว่าออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปั่นราคา


“บุญรอด” ปัดตีกัน “ลุงหมัก”

 พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกฯ เปิดเผยว่าได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า พล.อ.สนธิ ได้ระบุแล้วว่าคุยในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับคดีความ เรื่องนี้ 2 คนยลตามช่อง ฝ่ายหนึ่งบอกว่าดีที่มีการคุยกันเพื่อจะได้เกิดความสามัคคี แต่อีกฝ่ายหนึ่งมองว่าไม่น่าจะไปสมานฉันท์กัน ตนไม่อยากวิจารณ์ เพราะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคน ส่วนกองทัพยืนยันว่าขณะนี้ได้กลับเข้ากรมกองหมดแล้ว และเรื่องความสมานฉันท์ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
 
รมว.กลาโหม ชี้แจงเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ได้จงใจให้ออกมาในช่วงนี้ เพราะ ร่างกฎหมายนี้ทำมานานแล้ว และเพื่อป้องกันไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงการทหาร โดยให้มีคณะกรรมการของกระทรวงและเหล่าทัพขึ้นมาพิจารณาบัญชีปรับย้ายนายทหาร ไม่ว่าใครจะเป็น รมว.กลาโหม ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้ “การตัดสินใจของคณะกรรมการเมื่อมีมติแล้วจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แม้กระทั่ง รมว.กลาโหม ที่ นั่งเป็นประธานก็ยังไปทุบโต๊ะหรือเปลี่ยนโผไม่ได้”.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์