นพ.สุรพงษ์กล่าวถึงการจัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ที่เห็นโผ ครม.มีการเปลี่ยนหลายครั้งนั้น จะเห็นเพียงเฉพาะในหน้าหนังสือพิมพ์
ขณะนี้รายชื่อ ครม. เสร็จหมดแล้ว เหลือเพียงแค่การตรวจสอบคุณสมบัติก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย แหล่งข่าวของหนังสือพิมพ์ไปเห็นสิ่งที่คิดว่าเป็นของจริง แต่ในความเป็นจริงแล้วยังไม่จริง ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโผ ครม.แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวการแต่งตั้งอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มาเป็นที่ปรึกษาในด้านต่างๆ
นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว การจะให้คำปรึกษานั้นไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งตำแหน่งใดๆ เมื่อถามว่า รายชื่อ ครม.ที่ออกมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น ครม.ต่างตอบแทน นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ขอไม่ตอบ เพราะขณะนี้รายชื่อ ครม.ยังไม่ออกมา แต่เมื่อรายชื่อออกมาแล้วก็เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า สำหรับทีมเศรษฐกิจนั้น จะมีรองนายกฯ ที่ดูแลเศรษฐกิจ
ซึ่งการบริหารในการเมืองยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องมีรองนายกฯ ที่ดูแลเศรษฐกิจเพียงคนเดียว เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะซ้ำรอยของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยมีทีมเศรษฐกิจ 2 ทีม จนขาดเอกภาพในการทำงาน นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ไม่กังวล เพราะการทำงานในทีมเศรษฐกิจจะมีการแบ่งงานกันชัดเจน อย่างไร ก็ตาม โผ ครม.จะมีรองนายกฯ ที่มาดูแลเศรษฐกิจกี่คนยังไม่สามารถตอบได้ แต่จะมีรองนายกฯ ที่มาดูแลด้านอื่นๆด้วยอย่างแน่นอน
ต่อข้อถามว่า จะต้องไปขอคำปรึกษาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่
นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เรายินดีที่จะขอคำปรึกษาจากทุกคน ทั้งนักวิชาการและผู้ที่มีประสบการณ์ เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะมีการดำเนินการในช่วงเวลาใด นพ.สุรพงษ์ตอบว่า รัฐบาลชุดนี้มีจุดยืนในการบริหารประเทศ คือจะต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้สำเร็จเสียก่อน และเชื่อว่าจะเห็นผลภายใน 6 เดือน ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งในด้านภาวะการเติบโตของตัวเลขทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ