4 กกต.พลิกเกมดิ้นดึงศาลร่วมคุมเลือกตั้งให้ชูใบเหลือง-แดง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤษภาคม 2549 18:06 น.
4 กกต.พลิกเกมดิ้น ดึงศาลฎีการ่วมรับผิดชอบเลือกตั้งใหม่ มอบอำนาจให้ชูใบเหลือง-ใบแดงแทน เพื่อหวังลดแรงกดดันให้ลาออก ขณะเดียวกันเดินหน้าสู้คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตีความยึดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อ้างไม่มีตรงไหนระบุว่าจัดการเลือกตั้งไม่สุจริต เผยสาเหตุไม่ยอมไขก๊อกเพราะกลัวถูกชุดใหม่เข้ามารื้อคดีเช็กบิล
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุม 3 ศาลได้ระบุถึงแนวทางต่อการจัดการเลือกตั้งต่อ กกต. 2 แนวทาง คือ ให้ กกต.เสนอเรื่องขอความช่วยเหลือมายังศาลโดยใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 145 (2) หรือให้ กกต.เสียสละด้วยการลาออกนั้น รายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า จากการหารือกันของ กกต.ทั้ง 4 คนเบื้องต้นนั้นต่างเห็นตรงกันว่าจะที่เลือกแนวทางการขอความช่วยเหลือไปยังศาลโดย กกต.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 และ 145 (2) ที่ระบุให้ กกต.มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมาย มาตรา 144 วรรคสอง แต่ยังไม่เป็นที่ยุติ เพราะกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าการขอความช่วยเหลือจากศาลนั้นจะให้เข้ามาดูแลในประเด็นใดบ้าง
จากที่ กกต.พูดคุยกันคือให้ศาลเข้ามาดูแลในเรื่องการพิจารณาคำร้อง และสำนวนการพิจารณาใบเหลือง ใบแดงไปเลย เช่น ถ้าหากการเข้ามาของศาลเป็นในรูปของคณะกรรมการ เมื่อพิจารณาสำนวนการร้องเรียนต่างๆ แล้วเห็นว่าควรจะเป็นแดง เป็นเหลือง ที่ประชุม กกต.ก็จะมีความเห็นตามนั้น แล้ว กกต.ทำหน้าที่ในเรื่องการจัดการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าให้ศาลเข้ามาร่วมในเรื่องของกระบวนการจัดการเลือกตั้งด้วยศาลอาจจะไม่ถนัดนัก แต่ถ้าศาลเข้ามาช่วยในเรื่องของการพิจารณาใบเหลือง ใบแดง การจัดการเลือกตั้งก็ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ ขณะเดียวกันก็ลดกระแสกดดันจากสังคมที่ต้องการให้ กกต.ลาออกได้ด้วย แต่ก็เกรงว่าศาลอาจจะไม่ยอมเช่นกัน แหล่งข่าว ระบุ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวยังระบุถึงเหตุที่ กกต.มองว่าแนวทางดังกล่าวเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ว่า หาก กกต.ลาออก จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับการสรรหาใหม่ ซึ่งต้องอาศัยเวลานานพอสมควรกว่าจะได้ กกต.ชุดใหม่ เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูกรณีการเสียชีวิตของนายจรัล บูรณพันธุ์ศรี อดีต กกต.ที่ขณะนั้นสมัยประชุมเปิดอยู่ทั้ง 2 สภา แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่สามารถหาคนมาดำรงตำแหน่งได้ รวมทั้งอาจจะมีการโต้แย้งว่าการจะให้ กกต.ทั้ง 5 มีที่มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาทั้งหมดนั้นจะขัดกับรัฐธรรมนูญ
ที่สำคัญในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็น ที่นำไปสู่การเพิกถอนการเลือกตั้ง ไม่มีตรงไหนที่เขียนว่า กกต.ใช้อำนาจโดยไม่สุจริต โดยที่เกี่ยวกับการให้ความเห็นเรื่องระยะเวลาจัดการเลือกตั้งจนนำไปสู่การกำหนดวันเลือกตั้ง 2 เม.ย.นั้น คำวินิจฉัยก็เขียนชัดว่าแม้ พ.ร.ฎ.ยุบสภาจะตราขึ้นตามรัฐธรรมนูญ และกกต.จะได้ดำเนินการเลือกตั้งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง ทำให้เกิดผลของการเลือกตั้งที่ไม่เที่ยงธรรม ขณะที่ในประเด็นเรื่องคูหาก็ยิ่งชัดว่า ก่อนที่ กกต.จะมีมติให้มีการจัดคูหาแบบใหม่ได้ศึกษาข้อดี ข้อเสีย รวมทั้งข้อร้องเรียนต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการจัดคูหาแบบเดิม และศึกษาดูงานในต่างประเทศ แสดงถึงเจตนาของ กกต.ในการจัดหารูปแบบใหม่โดยสุจริตและมุ่งหมายให้เกิดความเที่ยง ดังนั้น กกต.ไม่ได้มีความผิดอะไร และเชื่อว่าการสู้คดีอาญาต่างๆ ที่ฟ้องร้อง กกต. และกต.สามารถนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไปยืนยันให้ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญาได้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ก็มีรายงานว่า นอกเหนือสาเหตุดังกล่าวที่ทำให้กกต.ยังไม่ตัดสินใจลาออกแล้ว ยังมีเรื่องของกรณีการใช้งบประมาณต่างๆ ไปอย่างไม่ถูกต้อง กรณีคำวินิจฉัยในคดีๆ ต่างที่ยังไม่ได้เขียน และยังไม่มีการลงนามอีกจำนวนมาก ทั้งที่ได้มีมติ มีการเพิกถอน หรือมีการเลือกตั้งใหม่ไปแล้ว ซึ่งประเด็นเหล่านี้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่พนักงาน กกต. ว่า หากลาออกไปก่อนโดยที่ยังไม่มีการดำเนินการเรื่องเหล่านี้ให้ถูกต้อง เมื่อ กกต.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ กกต.ชุดเก่าที่พ้นไปอาจถูกเช็กบิลย้อนหลังได้
ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า ในการหารือของที่ประชุม 3 ศาล ค่อนข้างชัดแจนว่าต้องการให้ กกต.ลาออกทั้งหมด และไม่รับแนวทางการตั้งคณะกรรมการเข้าไปช่วยงาน กกต. ซึ่งหากที่สุด กกต.ไม่ยอมลาออก ก็อาจจะมีการยื้อเวลาไปจนถึงการพิจารณาคดีที่ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ สว.อุบลฯ ฟ้องดำเนินคดีอาญาต่อ กกต.ทั้ง 4 คน โดยนายถาวร ฟ้องกล่าวโทษ กกต.ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณีที่ กกต.มีคำสั่งให้เปิดรับสมัครใหม่ในการเลือกตั้งรอบ 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 เม.ย. ซึ่งศาลได้รับฟ้องและนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ซึ่งนายถาวรยังได้ฟ้องเพิ่มในประเด็น กกต.ให้ความเห็นระยะเวลาการจัดการเลือกตั้งจนนำมาสู่การกำหนดวันเลือกตั้ง 2 เม.ย.ที่ไม่ชอบธรรม และการจัดคูหาลงคะแนนที่เป็นความลับ ส่วนคดีของ นพ.นิรันดร์ เป็นการฟ้อง กกต. ฐานกระทำผิดตามมาตรา 24 ของ พ.ร.บ.กกต. คือกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่เพื่อเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ซึ่งศาลรับฟ้องและนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 5 มิ.ย.นี้
นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ในการไต่สวนที่จะมีขึ้นจะนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการให้ความเห็นเรื่องการกำหนดวันต่อรัฐบาล และจะอ้างอิงคำวินิจฉัยศาล รธน. ซึ่งคิดว่าคดีดังกล่าวศาลน่าจะพิจารณาและตัดสินคดีโดยเร็วได้เพราะพยานหลักฐานชัดเจนและคำวินิจฉัยของศาล รธน.ก็ผูกพันทั้งหมด ซึ่งหากศาลยุติธรรมตัดสินว่า กกต.มีความผิด ก็จะมีโทษตามมาตรา 42 ของ พ.ร.บ.กกต. ที่กำหนดว่าผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 24 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี ดังนั้น กกต.ก็จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
นายคมสัน โพธิ์คง อ.นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า การพิจารณาคำฟ้องทั้ง 2 คดีของศาล จะไปสู่การวินิจฉัยว่าจะรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ ถ้าประทับรับฟัอง เท่ากับ กกต.เข้าสู่การเป็นจำเลยทันที และถ้าศาลพิจารณาคดีต่อเนื่อง คิดว่าคงจะมีคำพิพากษาออกมาโดยเร็ว เพราะศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีคำวินิจฉัยไว้แล้ว เรียกว่าพยานหลักฐานต่างๆ ในเชิงข้อกฎหมายมีอยู่ครบถ้วนแล้ว ศาลเพียงแต่พิสูจน์เจตนาของ กกต.ว่า ที่ทำไปทั้งหมดนั้นสุจริตหรือไม่เท่านั้น ถ้าเห็นว่าไม่สุจริต กกต.ก็มีสิทธิ์ติดคุก
สำหรับ กกต.ทั้ง 4 คนประกอบด้วย พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้

















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday