วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อ 17.45 น. นายพิฑูร พุ่มพิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ลงจากรถ และเดินไปยังสถานที่จัดพิธีที่ผู้ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และอ่านพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ความว่า
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแล้ว คณะรัฐมนตรี ที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ต้องพ้นจากตำแหน่ง และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2551 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงทรงพระราชดำริว่า นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ที่สมควรไว้วางพระราชหฤทัยให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
จึงทรงกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 29 มกราคม พุทธศักราช 2551 เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร
จบแล้ว เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถวายคำนับพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วอัญเชิญพระบรมราชโองการฯ ไปวางที่โต๊ะหมู่บูชา ถวายคำนับ กลับไปยืนประจำที่
นายกรัฐมนตรี ถวายคำนับ แล้วเดินออกไปยืนตรงกลางหน้าโต๊ะหมู่บูชา ถวายคำนับพระบรมสาทิสลักษณ์ ฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้แล้วกราบราบ ลุกขึ้นยืนถวายคำนับ เสร็จพิธีรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี หลังจากเสร็จพิธีการ นายสมัคร แถลงข่าวว่า
“กระผมนายสมัคร สุนทรเวช ขอสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ไว้วางพระราชหฤทัยแต่งตั้งให้ผมทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มาร่วมในงานนี้ กระผม เดินทางมาในเรื่องของการเมืองตลอดชีวิต ค่อนชีวิตอยู่ในวงการการเมืองตั้งแต่การเมืองท้องถิ่น จนเป็นการเมืองระดับชาติ เป็นรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี กลับไปทำงานท้องถิ่น และตั้งใจว่า จะเกษียณอายุทางการเมืองในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ได้รับเลือกตั้งมาแล้ว ทำหน้าที่เพียง 5 เดือน ก็เกิดการปฏิวัติ ยึดอำนาจ เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้ เมื่อมีโอกาส มีผู้คนที่รวบรวมกันมา สามารถจะตั้งพรรคการเมือง มีจิตวิญญาณทางการเมือง ซึ่งผู้คนยังมีศรัทธาอยู่ ผมก็รับทำหน้าที่
ขอประกาศให้ท่านทั้งหลายได้ทราบทั่วกันว่า หัวหน้าพรรคการเมืองชื่อพรรคพลังประชาชน ผมมีสมาชิกได้รับเลือกตั้งมา 233 คน จัดคณะรัฐมนตรีตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด จะเริ่มดำเนินการเมื่อได้เฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตามหน้าที่แล้ว จะทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองนี้ ขอประกาศให้ผู้คนทั้งหลายที่อยู่ในบ้านเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็นพวกพ้อง หรือพวกที่ไม่ค่อยชอบหน้ากันได้รู้ว่า ผมเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองนี้ ผมทำงานการเมือง เคยเป็นมาแล้วทุกตำแหน่ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ยืนยันกับท่านทั้งหลายว่า ผมจะทำการนี้ได้ ใครต่อใครจำนวน 24 ท่าน ที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ก็เป็นคนไทยเหมือนกับผม มีความรักชาติ มีความผูกพันในศาสนา มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ผมได้พูดเสมอ ในจิตใจคนไทยชีวิตจิตใจความผูกพันอยู่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ และเราอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ได้นับย้อนหลังเพียงสิบเพียงร้อย
แต่นับย้อนหลังได้หลายร้อยปี เรายังดำรงสถาบันนี้อยู่ และสถาบันนี้ก็จะอยู่คู่ประเทศไทยไปอีกนาน ใครก็ตามแต่ที่บังอาจในอดีตเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาทำการเหยียบย้ำผู้คนอื่น โดยการกล่าวหาว่า เขาไม่จงรักภักดี ข้อหานี้เป็นข้อหาร้ายแรง ผมแน่ใจว่า พี่น้องประชาชนคนไทยเสียงข้างมาก ที่ได้แสดงตัวเลขให้เห็น โดยตัวเลข 233 นั้นอย่างน้อยที่สุด ไม่เกี่ยวกับโรงศาล ไม่เกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิด ว่า คนที่เขากล่าวหานั้น เขาไม่ได้ไม่จงรักภักดีตามที่เขากล่าวหา เรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตของคนทั้งชีวิต ทั้งครอบครัว ที่โดนเกิดเหตุ ผมเป็นนักการเมือง เมื่อผมเห็นว่า เมื่อผมสามารถทำการเมืองเพื่อพิสูจน์ได้ ผมก็ทำการเมืองนี้ บัดนี้เป็นข้อพิสูจน์
ผมขอให้ใครก็ตามแต่ที่เคยดูหมิ่น เขียนหนังสือด้วยการวาดภาพ การพูดจาถากถาง เหมือนกับผมไม่มีความสามารถ เป็นคนไม่เคยรู้เรื่องต่าง ๆ นั้น ผมขอยืนยันว่า ท่านต้องให้เวลาผม ทำงานนี้ นายกรัฐมนตรีคนที่แล้วทำงานมา 16 เดือน ท่านก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกับผม ท่านเชี่ยวชาญการทหารไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการอื่นเลย แต่ท่านก็ถือหางเสือดูแลบ้านเมืองนี้ได้มาปกติ ผมเป็นนักการเมือง ผมรู้ในเล่ห์กลการเมือง วิธีการเมือง การบริหารบ้านเมือง ไม่ทุกแขนง แต่คนที่มานั้นมากันทั้งคณะรัฐมนตรี ผมไม่ได้บริหารบ้านเมืองนี้คนเดียว
ขอให้ท่านเชื่อใจว่า ผมจะทำหน้าที่ดูแลงานของบ้านเมืองนี้ งานการเมืองที่บริหาร ก็เหมือนรถยนต์ ใครเห็นรถยนต์คนใหม่ รุ่นใหม่ที่สุดจะขับนั้นถ้าขับเป็นแล้ว เพียงแต่ถามว่า พวงมาลัยอยู่ข้างไหน เกียร์เป็นเกียร์กระปุกหรือออโตเมติก ......แน่นอนผมมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล และจะขับรถคันนี้ในเวลาที่ไม่ปกติ ผมขอวิงวอนโปรดให้การสนับสนุนรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เป็นรัฐบาลผสม จะชั่วดีถี่ห่างก็เป็นคนไทยด้วยกัน มาจากพรรคการเมืองที่ตั้งใจด้วยกัน 6 พรรค จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้”
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
