เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก
นายนิกร จำนง รับมอบอำนาจจากนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นจำเลยความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปว่าระหว่างวันที่ 18-20 ม.ค.2551 จำเลยได้ตั้งโต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับมานั่งแถลงข่าวริมถนน ที่ทำการพรรคชาติไทย โดยนำภาพถ่ายของโจทก์เท่าตัวจริงวางบนเก้าอี้ ทั้งกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นดูแคลนว่าเป็นนักการเมืองไม่ดี ไม่น่าคบ หลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายแก่โจทก์ร้ายแรง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด
ทั้งนี้ ศาลรับคำร้องไว้และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ครั้งแรก วันที่ 31 มี.ค.เวลา 09.30 น.
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งเดินทางมาที่ศาลอาญา ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมารอรับหมายศาลด้วยตัวเอง ถ้าคิดว่าหลักฐานชัดเจนจริงตนก็ยืนยันได้ว่าของตนชัดเจนมากกว่า
"ท่านจะเอาเงินร้อยล้านมาปิดปากผมปิดไม่อยู่ เดี๋ยวผมจะฟ้องกลับ 100 บาทเป็นค่าแท็กซี่ไปลงคะแนน ผมไม่ใช่คนวิจารณ์อะไรมั่วซั่ว ผมจะคอยติดตามทุกพรรค แต่จะติดตามพรรคชาติไทยเป็นพิเศษ ถ้าพวกท่านทำไม่เหมาะสมผมต้องออกมาพูด แต่อย่าเรียกว่าจองเวรจองกรรมกันเลย" นายชูวิทย์กล่าว
ด้านนายมนัสชน สุจจิตรจูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายบรรหาร กล่าวว่า สัปดาห์หน้าทีมทนายความจากพรรคชาติไทยจะยื่นฟ้องนายชูวิทย์ ฐานกระทำการละเมิดเรียกค่าเสียหายจำนวนทุนทรัพย์ 100 ล้านบาทด้วย