"โกร่ง"วอนน้อมรับพระราชดำรัสผ่าทางตัน-เตือนวิกฤติน้ำมันแพง
วีรพงษ์ รามางกูรโดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤษภาคม 2549 13:20 น.
"โกร่ง"วอนทุกฝ่ายน้อมรับพระราชดำรัสร่วมกันแก้ปัญหาการเมืองให้คลี่คลายโดยเร็วก่อนเศรษฐกิจพัง ระบุหากมีรัฐบาลรักษาการนานๆจะทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก เตือนเตรียมรับภาวะน้ำมันแพง เพราะโอกาสราคาลดลงจะไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้ว เนื่องจากเป็นความต้องการแท้จริงไม่ใช่เกิดจากการเก็งกำไร
วันนี้(12 พ.ค.) นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเรียกร้องทุกฝ่ายให้ร่วมกันแก้ปัญหาการเมืองให้คลี่คลายโดยเร็ว เนื่องจากการมีรัฐบาลรักษาการนาน ๆ จะไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายน้อมรับกระแสพระราชดำรัสแล้วหันหน้าเจรจากัน เพื่อหาทางออก และว่าหากมีการเลือกตั้งรอบใหม่จนจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะไม่ออกมาตรการเข้มงวดเพื่อประหยัดน้ำมัน เช่น การปิดไฟฟ้า เนื่องจากจะกระทบคะแนนนิยม
หากราคาน้ำมันสูงถึง 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ถือเป็นเรื่องอันตราย เราต้องเตรียมตัว เพราะไม่ใช่การเก็งกำไร ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจด้านแมคโคร หรือภาครวม ยังถือว่าดี เพราะราคาสินค้าเกษตรยังสูง โดยเฉพาะข้าวเกวียนละหมื่นกว่าบาท รวมทั้งยางพารา ส่วนราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้น เชื่อว่าไม่กระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะราคาปรับขึ้นลงได้ นายวีรพงษ์ กล่าว
นายวีรพงษ์ ยัง กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันว่าให้ทุกฝ่ายเตรียมตัวรองรับภาวะราคาน้ำมัน ซึ่งมีแนวโน้มจะลดลงได้ยาก เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นเกิดจากภาวะความต้องการใช้สูงขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของจีนและอินเดีย ซึ่งต่างจากปี 2548 ที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นเกิดจากการเก็งกำไร และไม่เห็นด้วยกับการตรึงราคาสินค้า เพราะจะทำให้ประชาชนไม่เห็นภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจ โดยขณะนี้พบว่ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยเริ่มปรับตัวด้วยการประหยัดมากขึ้น
ด้าน นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กำลังซื้อผู้บริโภคเริ่มชะลอตัว โดยเห็นชัดเจนจากยอดขายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพงเริ่มลดลง ทำให้เร็ว ๆ นี้จะเห็นการกระตุ้นยอดขายประเภทผ่อนชำระระยะยาวและดอกเบี้ยถูกลงออกมามากขึ้น ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคยอดขายยังเติบโตปกติร้อยละ 5-6 เพราะเป็นสินค้าจำเป็น
ขณะที่ผู้ค้าปรับราคาสูงไม่ได้ เนื่องจากยังมีการแข่งขันที่รุนแรงอยู่ โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้ส่งหนังสือไปยังสมาชิกว่าหากต้องการปรับราคาให้แจ้งกรมการค้าภายในได้ แต่ยืนยันว่าจะระมัดระวังกลุ่มผู้ฉวยโอกาส อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อรู้ว่ามีปัญหาราคาน้ำมันดอกเบี้ยสูงขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาท แต่เร็ว ๆ นี้จะรวบรวมข้อมูลเพื่อยื่นขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอีกครั้ง
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการด้านปิโตรเคมี อาเซียนได้ประชุมร่วมกันในงาน ASIAN PETROCHEMICAL INDUSTRY CONFERENCE 2006 หรือ APIC 2006 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาดระหว่างประเทศ โดยจัดขึ้นที่โรงแรมแชงกรี-ลา ประเทศไทย ซึ่งได้นำหัวข้อการจัดการต้นทุนของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีร่วมกันประชุมกัน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะของวัตถุดิบ โดยเฉพาะน้ำมันที่ผันผวนมากในปัจจุบัน โดยการประชุมมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พฤษภาคม ซึ่งไทยรับเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 900 คน ทั้งในและต่างประเทศ