เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมสภามีมติเลือกนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯว่า
เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายสมัครเป็นนายกฯแล้ว อยากให้นายสมัครเร่งทำงาน เร่งเรียกความเชื่อมั่นกลับมาโดยเร็วที่สุด ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยต้องเริ่มตั้งแต่การคัดสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงการแถลงนโยบายที่ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญและเร่งด่วน อีกทั้งโดยหลักไปขอคะแนนเสียงจากประชาชนและบอกว่าจะทำอะไร ต้องดำเนินการตามนั้นเพราะเป็นเหตุผลที่ประชาชนให้การสนับสนุนมา
ดังนั้นจึงต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลผสมชุดนี้ว่าใช้แนวนโยบายในทิศทางใด
ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวการจัดรายชื่อ ครม. นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า อยากฝากให้ได้บุคคลที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ที่ต้องมีความรู้ความสามารถ ส่วนด้านการเมือง ต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริต และทำงานในระบบรัฐสภาโดยไม่เกิดปัญหา
ต่อข้อถามว่าการที่นายสมัครระบุว่าจะเป็นนายกฯ แค่ 1 ปี จะทำให้มีปัญหาหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ตอบว่า นายสมัครได้ปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว แต่ในแง่ของการดำรงตำแหน่ง ถ้าระบบเดินไปตามปกติก็อยู่ได้ถึง 4 ปี และการทำงานต้องทำโดยคำนึงถึงผลระยะยาว เมื่อถามว่าเป็นห่วงถึงภาพลักษณ์ของว่าที่นายกฯ คนใหม่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ในวันที่รัฐบาลได้แถลงนโยบาย ส.ส.จะได้ใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ ในการอภิปรายนโยบายว่ามีโอกาสที่นโยบายเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ อย่างไร
ต่อข้อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะตั้ง ครม.เงาติดตามการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่
นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ในการสัมมนา ส.ส.ของพรรคที่ จ.ชลบุรี จะมีการหารือเรื่องนี้ รวมถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และการตั้งคณะทำงานเตรียมการอภิปรายนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ พรรคตั้งใจจะวางระบบในการทำงานในฐานะฝ่ายค้าน คาดว่าไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.นี้ จะมีความชัดเจนว่าจะวางระบบเช่นใด เมื่อถามว่าจะให้เวลารัฐบาลชุดใหม่ ทำงานถึงเมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่ได้อยู่ที่เงื่อนเวลา แต่ถ้ารัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้อง และอยู่ได้ 3-4 ปี ก็ไม่ควรจะไปขัดขวาง แต่ถ้ารัฐบาลทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ฝ่ายตรวจสอบจะละเว้น