เริ่มขานชื่อเลือกนายกฯ มติผู้ถูกเสนอชื่อไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์

ประชาธิปัตย์

เปิดเกมเสนอชื่อ"อภิสิทธิ์" ชิงนายกฯ พร้อมเสนอให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ถูกเสนอชื่อ แต่แกนนำ"พปช." ส่วนกลับ สุดท้ายลงมติไม่ต้องแสดงวิสันทัศน์ และเริ่มขานชื่อนับคะแนน


เมื่อเวลา 09.30 น.

เริ่มเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยก่อนจะมีการเลือกนายกฯ มีการรับราชโองการแต่งตั้ง นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภาฯ และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นรองประธานคนที่ 1 พ.อ.อภิวัน วิริยะชัย รองประธาน.คนที่ 2

นายยงยุทธ กล่าวว่า

เป็นเกียรติที่ได้เป็นตัวแทนของทุกคน ในการทำหน้าที่ประธานสภาฯ และตนจะทำงานอย่างอลุ่มอล่วย และจะเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความเห็น จากนั้นนายยงยุทธได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือกัน ก่อนจะมีการเลือกนายกฯ


นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.แบบสัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 8 พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือว่า ในการเลือกนายกฯ ควรที่จะมีการแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนจะมีการลงคะแนน



โดยแบ่งออกเป็น 3 วิธีคือ
 
1. ให้ผู้เสนอชื่อผู้ที่จะเเป็นนายกฯ ควรมีโอกาสอภิปรายแสดงเหตุผล ว่าผู้ถูกเสนอชื่อสมควรเป็นนายกฯ เพราะเหตุผลใด

2.ผู้ที่ถูกเสนอชื่อ ควรแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อให้สมาชิกมีโอกาสในการตัดสินใจ


3. ให้ ส.ส. มีโอกาสจะซักถามผู้ที่จะได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดว่า การลงมติเลือก ส.ส.ไม่จำเป็นที่จะต้องทำตามมติของพรรค สามารถตัดสินใจเลือกใครก็ได้ จึงควรให้ผู้ที่จะลงคัดเลือกเป็นนายกฯ แสดงวิสัยทัศน์

อย่างไรก็ตาม

ส.ส.พรรคพลังประชาชน.อภิปรายไม่เห็นด้วย โดย ร.ต.ท.เชาวรินท ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 7 พรรคพลังประชาชน อภิปรายว่า ตามรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่า จะต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ ที่ผ่านมาการเลือกนายกฯ ก็ไม่เคยแสดงวิสัยทัศน์แม้แต่ครั้งเดียว


เมื่อถูกคัดค้านทำให้บรรยากาศการประชุมเข้มข้นขึ้น โดย ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะอภิปราย ว่า ควรจะให้ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ อธิบายนโยบายที่จะทำต่อไปในอนาคต ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ หรือสังคม

นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า

ตนอยากให้ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ แสดงถึงวิสัยทัศน์ วุฒิภาวะ จิตสำนึก ความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงตนอยากทราบว่า ผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ มีนโยบายอย่างไรในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในเรื่องของการนิรโทษกรรม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย รวมถึงหากเข้ามาดำรงตำแหน่งแล้ว จะยุบ คตส.หรือไม่
 

เมื่อถึงตรงนี้ทำให้สมาชิกพรรคพลังประชาชนหลายคน ยกมือประท้วง โดยเห็นว่าอภิปรายไม่เข้าประเด็นและเป็นการอภิปรายย่ำยี นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 6 พรรคพลังประชาชน ประท้วงว่า การอภิปรายเช่นนี้เป็นเหมือนการหาเศษหาเลย และเป็นการอภิปรายย่ำยีคนที่จะมาเป็นนายกฯ ซึ่งไม่สมควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
 
ที่ประชุมได้อภิปรายเรื่องนี้ประมาณ 1 ชั่วโโมง หลังจากนั้นนายยงยุทธสั่งให้มีการลงมติ โดยเสียง 300 ต่อ 154 เสียง งด 5 ไม่ลงคะแนน 1 เห็นว่าควรปิดการอภิปราย


จากนั้นที่ประชุมได้เสนอชื่อผู้ที่สมควรเป็นนายกฯ โดยพรรคพลังประชาชน เสนอชื่อนายสมัคร เป็นนายกฯ มีผู้รับรอง 304 เสียง ไม่รับรอง 6 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง และไม่ลงคะแนน 21 เสียง ด้านพรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อ นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ มีเสียงรับรอง 165 เสียง ไม่รับรอง 26 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 138 เสียง

จากนั้นมีการลงมติว่า

ควรมีการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ที่จะเป็นนายกฯหรือไม่ โดยที่ประชุมไม่เห็นด้วยให้แสดงวิสัยทัศน์ 306 เสียง ต่อ 145 เสียง และไม่ลงคะแนน 5 เสียง

นายยงยุทธ จึงเปิดให้มีการลงคะแนนเลือกนายกฯ โดยใช้วิธีลงคะแนนแบบขานชื่อ


ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย:หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์