ทั้งนี้ การพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี
จะเปิดโอกาสให้ ส.ส.แต่ละคนมีสิทธิ์เสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีความเหมาะสมได้ 1 ชื่อ โดยมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของ จำนวน ส.ส.ทั้งหมดที่มีอยู่ และให้ออกเสียงลงคะแนน โดยเปิดเผยด้วยการขานชื่อสมาชิกตามลำดับอักษร และให้สมาชิกขานว่าจะเห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง ซึ่งหากใครได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 239 เสียง ให้ถือว่าผู้นั้นได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากไม่มีใครได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง ก็ให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ โดยผู้ที่รับคะแนนเสียงสูงสุดจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะที่บรรยากาศที่อาคารรัฐสภาเริ่มคึกคัก
เจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสื่อมวลชน ทยอยเข้ามายังรัฐสภาแล้ว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา มีการตรวจสอบยานพาหนะและสถานะบุคคลอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ สำหรับการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร นอกจากจะเป็นการเลือกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นการทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม
สำหรับ ส.ส.ที่เดินทางมาถึงรัฐสภาเป็นคนแรก คือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร เขต 2 พรรคชาติไทย ขณะที่นายสมัคร ได้เดินทางมาถึงยังอาคารรัฐสภาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และให้สื่อมวลชนได้ถ่ายรูป แต่ทั้งนี้ไม่ยอมตอบคำถามเรื่องการนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี.