ได้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.เพื่อพิจารณาการเสนอชื่อบุคคลเข้าแข่งขันในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 28 ม.ค.นี้หรือไม่ โดยภายหลังการประชุม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะเสนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าแข่งขันเป็นนายกฯ
โดยมีเหตุผล 3 ประการ คือ
1.เป็นไปตามประเพณีของระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องมีการแข่งขันกัน
2.พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่ามีบุคลากรที่มีความพร้อมที่จะทำหน้าที่นายกฯ และ
3.ประชาชนจะได้เปรียบเทียบว่าบุคคลจากพรรคใดมีความเหมาะสมกว่ากัน
นายองอาจ กล่าวว่า
การเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ดังกล่าวจะไม่มีผลลบต่อพรรค เพราะเป็นเรื่องของการแข่งขันในระบอบประชาธิปไตย การเมืองไม่ใช่การแพ้ชนะด้วยการยกมืออย่างเดียว เพราะนอกจากจะชอบด้วยกฎหมายแล้ว ควรมีความชอบธรรมด้วย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่านายอภิสิทธิ์มีความชอบธรรมในการทำหน้าที่นายกฯ
เมื่อถามว่า
จะมีการเสนอให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯอภิปรายในสภาก่อนโหวตหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า การขึ้นเป็นนายกฯมีเหตุผลอะไรที่จะไม่มีการพูดคุยกันก่อน ซึ่งการเสนอให้มีการอภิปรายฯถือเป็นสิทธิของ ส.ส.ในสภาที่จะหยิบยกให้มีการอภิปรายหรือไม่ แต่ขอยืนยีนว่า พรรคไม่ได้พิจารณาและมีมติในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม การโหวตเลือกนายกฯพรรคไม่ได้คิดว่าจะมีกลุ่มงูเห่า หรือมีเสียงจากรัฐบาลเทมาให้นายอภิสิทธิ์ เพราะจะยึดทุกอย่างตามข้อบังคับในรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่สามารถตอบแทนส.ส.คนอื่นได้ ว่าจะโหวตกันอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการพิจารณาเลือกบุคคลขึ้นเป็นนายกฯ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความกล้าหาญ และการใช้ดุลยพินิจของ ส.ส.แต่ละคน