นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า
ในกรณีในวันที่ 28 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางกระแสข่าวการแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี รวมทั้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศนั้น อยากฝากไปถึง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ถึงการเลือกนายกฯว่า ขอให้ยึดหลัก 4 ต้อง คือ 1.ไม่เลือกนายกฯ ที่มีมลทิน มัวหมอง 2.ต้องสรรหารัฐมนตรีที่ไม่มีประวัติด่างพร้อย 3.ตั้งรัฐมนตรีโดยยึดหลักความรู้ และความซื่อสัตย์ 4.ตั้ง ครม.ที่มีประสิทธิภาพ และแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ และ 2 ไม่ คือ 1.ต้องไม่ตั้ง ครม.นอมินี 2. ต้องไม่ตั้งรัฐมนตรีสีเทา หากการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ยังเป็นการเมืองที่ย้อนยุคไปสู่การเป็นนอมินีของระบอบทักษิณ ก็ไม่ได้ช่วยให้เกิดความหวังในการแก้ไขปัญหาของประเทศ
ขู่จองกฐินตรวจสอบรัฐบาลทันที
นายอลงกรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ถูกเสนอชื่อในตำแหน่งนายกฯนั้น อยากให้พรรคร่วมรัฐบาลศึกษาผลการสอบสวนคดีการทุจริตการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของ กทม. ในขณะที่นายสมัครดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯกทม. ก่อนที่จะมีการเลือกนายกฯ เพราะการได้นายกฯ หรือรัฐมนตรีที่มีประวัติด่างพร้อย จะทำให้มาตรฐานของการรับผิดชอบทางการเมือง โดยเฉพาะการทุจริตคอรัปชันตกต่ำ และไม่ช่วยให้การพัฒนาการเมืองได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างที่ประชาชนคาดหวัง และถ้ารัฐบาลและนายกฯ เริ่มต้นจากจุดที่ไม่ถูกต้อง จะไม่เกิดประโยชน์ต่อความมั่นคงของรัฐบาล และความน่าเชื่อถือของต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทย ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานกี่เดือนก่อนตรวจสอบนั้น ฝ่ายค้านไม่มีสิทธิให้เวลารัฐบาล หากเอาแต่แสวงประโยชน์ ช่วงชิงแก่งแย่งตำแหน่งกัน ไม่สนใจปัญหาของประชาชน วันเดียวก็ให้โอกาสไม่ได้
ยุพรรคร่วมต่อรองเก้าอี้ รมต.ก่อน
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนกรณีการจัดตั้งรัฐบาล แต่มีปัญหาการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ขอเสนอแนะพรรคร่วมรัฐบาลว่าหากจะสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายก รัฐมนตรี ควรที่จะตกลงเงื่อนไขตำแหน่งรัฐมนตรีให้เสร็จก่อนโหวตเลือกนายกฯ ไม่เช่นนั้นถ้าโหวตเลือกนายกฯไปแล้ว ธรรมชาติของพรรคพลังประชาชน คงจะไม่อ่อนข้อให้ ในที่สุดจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเสียเปรียบได้ อีกทั้งการตั้งรัฐบาลครั้งนี้สิ่งที่น่าสังเกต คือตั้งแต่มีรัฐบาลมามีครั้งนี้แหละ ที่ซอยในหมู่บ้านโอฬาร ที่เป็นบ้านของนายสมัครที่จะขึ้นเป็นนายกฯกลับเงียบเหงา แต่กลับไปคึกคักที่เกาะฮ่องกง จึงน่าแปลกใจว่าทำไมรัฐบาลไทยจึงไปจัดตั้งกันที่เกาะฮ่องกง หรือว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลอินเตอร์ เพราะเป็นรัฐบาลเมดอินฮ่องกง เพราะคนที่จัดตั้งรัฐบาลอยู่ที่นั่น
บี้ “สมัคร” แจงปมเป็นนายกฯไม่นาน
นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่านายสมัครได้พูดกับ ส.ส.ระหว่างการประชุมพรรคพลังประชาชนว่าจะอยู่ในตำแหน่งไม่นานนั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดังนั้นอยากให้นายสมัครชี้แจงเหตุผลว่าทำไมถึงพูดอย่างนั้น หรือต้องการทำภารกิจอะไรบางอย่างที่ตกลงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเอาไว้ หรือนายสมัครอาจรู้ชะตากรรมของตัวเองดีว่า อยู่ในการพิจารณาของกระบวนการศาลยุติธรรม อีกไม่นานศาลจะต้องตัดสินคดี