เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เวลา 10.30 น.
องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์พิจารณาครั้งแรก ในคดีหมายเลข อม.1/ 2550 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินการ และเป็นเจ้าพนักงานและผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ฯลฯ ตาม พ.ร.บ.ว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 100 และ 122 ประมวลกฎหมายอาญา ม.33, 83, 86, 91, 152 และ 157 ขอให้ศาลยึดทรัพย์จำนวน 772 ล้านบาท และที่ดินอีก 4 แปลงย่านรัชดาภิเษก ห้วยขวาง กทม. ตกเป็นของแผ่นดิน
โดยนายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสศาล ฎีกา เจ้าของสำนวน ได้อธิบายคำฟ้องให้คุณหญิงพจมานฟังว่า
ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 สามี ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ในการประมูลซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกรวม 4 แปลง โดยจำเลยที่ 1 ให้ความยินยอม พร้อมทั้งสอบถามว่ากระทำผิดตามที่ถูกฟ้องหรือไม่ คุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 ยืนยันให้การปฏิเสธ พร้อมยื่นคำให้การต่อศาล และยื่นคำร้องขอเวลาตรวจและคัดสำเนาเอกสาร และการติดตามพยานเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอก เพื่อจำเลยที่ 2 จะได้จัดทำการให้การเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างละเอียด ในการสู้คดีต่อไป ประกอบกับจำเลยที่ 1 แจ้งว่าจะกลับมาร่วมต่อสู้คดีกับจำเลยที่ 2 ประมาณเดือน พ.ค.นี้ จำเลยที่ 2 จึงขอให้ศาลกำหนดวันนัดพิจารณาตรวจพยานหลักฐานออกไปเป็นเวลา 90 วัน ก่อนที่ศาลจะสอบถามนายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะโจทก์ ว่าคัดค้านหรือไม่ นายเศกสรรค์แถลงไม่คัดค้าน