ที่พรรคชาติไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย
ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. ทุกคน โดยนายบรรหาร กล่าวในที่ประชุมว่า การเลือกตั้งผิดเป้าไปกว่า 10 ที่นั่ง ยอมรับว่าสู้กระแสไม่ได้ และถ้าไม่ตัดสินเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน การเมืองก็ ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ ส่วนความคืบหน้าเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี คงต้องรอให้มีความชัดเจนเรื่องตั้งนายกรัฐมนตรีก่อน คาดว่าน่าจะชัดเจนประมาณวันที่ 25 ม.ค. นี้ “พรรคชาติไทยไม่ส่งชื่อใครไปเป็นรองประธานสภาฯ และการโหวตนายกฯ นั้น หากพรรคพลังประชาชน เสนอชื่อใครมาพรรคเราก็ต้องมีการเรียกประชุม ส.ส.ของพรรคก่อน”
นายบรรหาร ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการจัดสรรโควตารัฐมนตรีว่า
ต้องรอการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ จากนั้นถึงจะมีประชุมพรรคร่วมรัฐบาลว่าใครจะได้อะไรบ้าง แต่ประเพณีที่เคยทำมาเป็นไปตามอัตราส่วน ที่สื่อลงว่าพรรคชาติไทยได้ 4-5 ที่นั่งไม่ใช่ทั้งหมด หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงคุณสมบัติผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีของพรรคว่าจะยึดบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ คนที่ช่วยเหลือพรรค และอยู่กับพรรคมานานพอสมควรแล้ว สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์พรรคชาติไทยที่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้น ต้องยอมรับความจริงว่าถ้าไปเข้าอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายที่ไม่อยากให้เข้าก็โทรฯ มาเล่นงานเรา ถึงตรงนี้ตนเรียนตรง ๆ ว่าไม่เอาอะไรอีกแล้ว อะไรก็ไม่เป็น ลูกก็ไม่เป็น แต่เราอยากเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ถ้าหากมีรัฐบาลที่ดี มีความมั่นคง เศรษฐกิจก็ดีขึ้น ความเชื่อถือก็กลับคืนมาทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามหลังการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยก็จะนัดกินข้าวกับพรรคประชาธิปัตย์
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการรับตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะได้เป็นรัฐมนตรี เพราะนายบรรหารจะเป็นผู้พิจารณา ตนเป็นมาแล้วทั้ง รมว.คมนาคม รมว. เกษตรฯ รมว.มหาดไทย รองนายกฯ 2 ครั้ง มันไม่ได้มีความกระสันอะไรอีกแล้ว