สื่อต่างชาติชี้ ทักษิณ ยังลำบาก

วานนี้ (20 ม.ค.)  สำนักข่าว “เอเอฟพี” ได้ตีพิมพ์ บทความเกี่ยวกับการเมืองไทย

โดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติว่า รัฐสภาชุดใหม่ ของไทยจะเริ่มประชุมกัน เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ม.ค.นี้ โดยรัฐบาลผสม 6 พรรค นำโดยพรรคพลังประชาชน ที่เป็นพันธมิตรของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ามากุมอำนาจอีกครั้ง สามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ได้ราว 2 ใน 3 แต่นั่นไม่ใช่หลักประกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะสามารถกลับประเทศไทยได้อย่างง่ายๆ และราบรื่น

แม้จะบอกว่าจะกลับจากลี้ภัยในอังกฤษในเดือนเม.ย.นี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ยังถูก  คตส.ฟ้องร้องคดีอาญาข้อหาคคอรัปชันอยู่ 2 กระทง

ซึ่งมีโทษจำคุก ทั้งยังถูกอายัดทรัพย์สินราว 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังต้องหาทางประนีประนอมกับฝ่ายผู้จงรักภักดีต่อราชวงศ์ในกองทัพ ซึ่งเป็นผู้นำการก่อรัฐประหาร ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณสร้างความไม่พอใจให้บรรดาศัตรูทางการเมืองอีก พวกเขาก็มีทางเลือกทางกฎหมายหลายอย่างที่จะเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณเองด้วย สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ไปขึ้นอยู่กับการเจรจาและต่อรองกันหลังฉาก
 

สำนักข่าว “เอเอฟพี” ยังระบุว่า แม้ขณะนี้พรรคพลังประชาชนที่เป็นแกนนำรัฐบาล จะมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้นำ แต่ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณคือผู้ชักใยอยู่หลังฉาก
 
นายคริส เบเคอร์ นักเขียนนัก วิจารณ์การเมืองไทย ชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณและนายสมัคร จะติดต่อหารือกันแบบรายวัน แต่อิทธิพลของ พ.ต.ท. ทักษิณจะลดน้อยถอยลง หลังเปิดการประชุมสภา นอกจากนี้ ยังมีผู้ตั้งคำถามว่า นายสมัครจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ แต่ก็จะได้คำตอบในไม่ช้า เพราะรัฐสภาจะเปิดประชุมใน 21 ม.ค. และจะเลือกนายกฯภายใน 1 สัปดาห์

ส่วนคณะรัฐมนตรีจะมีการแต่งตั้งภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่าจะมีการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่ง ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลอย่างดุเดือด

รัฐบาลชุดนี้จะเผชิญกับสภาวะไร้เสถียรภาพและขาดเอกภาพ และอาจอยู่ ได้ไม่นาน อย่างไรก็ตาม นายเบเคอร์กลับชี้ว่า รัฐบาลจะค่อนข้างมีเสถียรภาพ เพราะเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลได้ ครองอำนาจ ก็จะไม่ยอมทิ้งอำนาจไปง่ายๆ ส่วนคณะนายทหารผู้อยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหาร ก็จะเฝ้าจับตาดูสถานการณ์ และหาทางเข้าไปควบคุมการเมืองในบางอย่าง รวมทั้งผลักดันคนของตนเข้าสู่วุฒิสภา