ม็อบเชลียร์ วาสนา สู้ๆ กระหึ่ม!!- เหิมยุฟ้องกลับศาล รธน.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2549 16:11 น.

ระดมม็อบนับพัน เชลียร์ วาสนา สู้ๆ ลั่น กกต. เหิมเกริมยุให้ปกป้องสถาบันต้องฟ้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าตัวปลื้มจนน้ำตาไหล ย้ำตกเป็นแพะบูชายัญ แต่ยังไม่ยอมซัดทอดและต้นตอปัญหาวันนี้ อ้างได้ทำพินัยกรรมเปิดเผยความจริงรอแจกในงานศพ ระบุ มีหลักฐานทั้งเทปและซีดี และเป็นอักษร

วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ตลอดทั้งวันมีประชาชนจากทั่วประเทศทยอยมาให้กำลังใจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงบ่าย มีชาวบ้านจากทั่วประเทศและชมรมต่างๆ อาทิ จังหวัดปทุมธานี ยโสธร นนทบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น สมุทรปราการ และชมรมคนรักชาติ ชมรมคนผ่านฟ้ารักษาประชาธิปไตย ชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ สมาพันธ์ลูกย่าโม จำนวนกว่า 1,000 คน เดินทางมาให้กำลังใจ กกต.ที่ชั้น 10 ของอาคารศรีจุลทรัพย์ พร้อมด้วยป้ายผ้า และดอกไม้จำนวนมาก

ตัวแทนของผู้มาให้กำลังใจต่างกล่าวในทำนองเดียวกันว่า ขอให้ กกต.สู้ต่อไปเพื่อประชาชน อย่าลาออก และบางส่วนยังเรียกร้องให้ กกต.ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อปกป้องชื่อเสียงของ กกต.

อย่างไรก็ตาม เมื่อ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.ลงมาจากห้องทำงาน ขณะที่เดินผ่านกลุ่มประชาชนที่มาให้กำลังก็เข้ามารุมล้อม และตะโกนให้กำลังใจ ทำให้ พล.ต.อ.วาสนา รู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหล และน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา

โอกาสนี้ พล.ต.อ.วาสนา กล่าวกับผู้ที่มาให้กำลังใจว่า ตั้งแต่รับราชการจนถึงตำแหน่งพลตำรวจเอก ไม่เคยเอ่ยขอผลประโยชน์จากใครแม้แต่สลึงเดียว เติบโตมาด้วยการทำงานมุมานะ ขยันหมั่นเพียร ขณะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ยึดเงินสดเป็นสิบล้านบาท ให้ไปดูเลยว่าเคยมีหายสักสตางค์หรือไม่

พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ความจริงหลังจากพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ ปปง.ตั้งใจว่าจะไปอยู่บ้าน แต่เพื่อนๆ ต้องการให้เข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ จึงมาสมัครเป็น กกต.และได้รับเลือกจาก ส.ว.ด้วยคะแนนอันดับ 1 แต่รู้สึกเสียดายชีวิตที่สะสมความดีมาต้องมาสูญสิ้นเมื่อเป็น กกต.ทั้งที่ไม่เคยคิดร้ายต่อแผ่นดิน ประเทศชาติ ไม่เคยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ที่มีอยู่ในการแสวงหาประโยชน์ใดๆ มุ่งทำงานมากกว่ามุ่งเรื่องความสัมพันธ์ ทำให้มีพวกน้อย

พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า เสียดายที่วันนี้ยังไม่อาจจะเปิดเผยให้พี่น้องทั้งหลายทราบได้ เพราะมีวินัย มีมารยาท มีระเบียบที่ยึดติดมาตั้งแต่รับราชการ อะไรที่เป็นความลับก็จะรักษาไว้เป็นความลับ ท่านทั้งหลายที่มา ถ้าท่านมีชีวิตอยู่ คิดว่าอย่างช้าที่สุดจะได้รู้ความจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดในวันนี้เป็นอย่างไร มาจากใคร

ผมจะเขียนไว้ ผมจะสั่งลูกว่าให้นำสิ่งที่ผมบอกไม่ได้ในวันนี้ มาเปิดเผยในวันที่ผมจากไปแล้ว โดยพิมพ์แจกในงานศพว่า เหตุการณ์วันนี้ที่ผมกลายเป็นแพะบูชายัญ ใครอยู่เบื้องหลัง โดยมีหลักฐานไม่ใช่เพียงคำพูด และตัวอักษร แต่ผมมีซีดี และเทป ไม่ได้เป็นหลักฐานที่ผมไปสร้างมา หรือไปหาเรื่องมา ใครไปพบกับใคร ใครทำอะไร แล้ววันหนึ่งท่านทั้งหลายจะได้ทราบ พล.ต.อ.วาสนา กล่าว พร้อมกับมีเสียงโห่ร้องและปรบมือของผู้มาใช้กำลังใจอย่างกึกก้อง

นอกจากนี้ พล.ต.อ.วาสนา ยังกล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ชี้ว่าการจัดการเลือกตั้งของ กกต.เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยถามผู้ที่มาให้กำลังใจด้วยว่าการจัดคูหาเลือกตั้งที่หันหน้าเข้าคูหาเลือกตั้งมีใครเห็นใครกากบาทให้ใครบ้าง และให้ไปถามคน 29 ล้านคน ที่ลงคะแนนว่าใครรู้บ้างว่าใครลงให้ใคร เมื่อ พล.ต.อ.วาสนา พูดถึงตรงนี้ ผู้ที่มาให้กำลังใจต่างตะโกนตอบเสียงดังว่าไม่มีใครเห็น

จากนั้น พล.ต.อ.วาสนา ยังพูดต่อถึงกรณีพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยตั้งคำถามว่า ทำไมไม่พูดบ้างว่า พรรคใหญ่ฝ่ายตรงข้ามก็พยายามเกลี้ยกล่อมพรรคเล็กว่าอย่าลงสมัคร ซึ่งส่วนตัวมีพยาน ทั้งบุคคล และหลักฐาน พร้อมพิสูจน์ความจริงในศาล

วันนี้ผมต้องแพ้คนที่มีความคิด หรือจิตไม่สุจริต ที่ผ่านมา ผมมีครอบครัวที่ดี แต่มาวันนี้ต้องมาถูกด่าหน้าหนา แม้ผมจะมาจากชาวสวน แต่ไม่เคยกล่าวคำที่หยาบคายต่อสาธารณะ ผมเสียดาย บางคนความรู้ดี มีวุฒิภาวะสูง แต่ถ้อยคำที่กล่าวไม่มีมารยาทของสังคมไทยที่ดี ผมต้องขอบคุณที่มาให้กำลังใจ และจะจดจำไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พล.ต.อ.วาสนา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พล.ต.อ.วาสนา พูดจบ ผู้มาให้กำลังใจได้ร้องตะโกนว่า กกต.สู้ๆ อย่าลาออก ทำงานต่อไป ซึ่ง พล.ต.อ.วาสนา ตอบว่า ขอน้อมรับข้อเสนอของทุกคนไว้พิจารณา แต่จะขอไปอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และปรึกษากับ กกต.ก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนที่กลุ่มผู้ที่จะขึ้นมายังห้องประชุมชั้น 10 เพื่อมาให้กำลังใจกกต. นั้นได้มีการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนและต่อต้านกกต. โดยกลุ่มที่ต่อต้านได้ใช้โทรโข่งพูดว่า พวกคุณมีสิทธิที่จะชุมนุมอย่างสงบ แต่ขอ อย่าทำลายป้ายนะครับ อย่างไรก็ดีไม่นานจากนี้กลุ่มดังกล่าวกลับไปรื้อป้ายผ้าขนาดใหญ่บนสะพานลอยที่อยู่ติดกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านกกต.แทน ข้อความ ที่นี่ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศทักษิณหรือกกต. และต่างปรบมือให้กำลังใจ

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การเดินทางมาให้กำลังใจของกลุ่มผู้ให้กำลังใจกกต.นั้น ก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ต่างได้รับกำลังใจจากประชาชนเช่นเดียวกัน พร้อมย้ำว่า ไม่มีทางลาออกหรือยุบสภา แต่หลังจากนั้นไม่นานได้ประกาศยุบสภาและประกาศเว้นวรรคทางการเมือง เช่นเดียวกับพล.ต.อ.วาสนา กำลังเผชิญภาวะเดียวกัน และประกาศต่อหน้ากลุ่มที่มาให้กำลังใจทุกครั้ง ว่าไม่มีทางลาออก