ชูวิทย์จวกเติ้งยับ ไร้สัจจะนิยม พลิกลิ้นร่วมรบ.พปช.

'ชูวิทย์'ตั้งโต๊ะหน้าชาติไทยอัด'บรรหาร'เป็นหลงจู๊เห็นแก่ตัว กลับลำยอมทิ้ง 5 เงื่อนไขเข้าร่วมรบ.พปช. ลั่นขอเป็นฝ่ายค้านคนที่ 166

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
 
เมื่อวานนี้ 18 ม.ค. เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคชาติไทย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่หน้าป้ายพรรคชาติไทย โดยมีรูปนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย วางบนเก้าอี้ไว้คู่กัน และนำป้ายโปสเตอร์พูดถึงพฤติกรรมนายบรรหารวางไว้อยู่ด้านหลัง โดยนายชูวิทย์ได้หันมาทางรูปนายบรรหาร ก่อนแถลงข่าวว่า  รู้สึกอึดอัดกับการกระทำของนายบรรหารมาก โดยเฉพาะเรื่องสโลแกนของพรรค ซึ่งก่อนหน้านั้นนายบรรหารได้สอนตนมาตลอดว่า หากพูดอะไรให้ออกได้เป็น  2 ทาง เพราะถ้าพูดออกทางเดียวจะไม่มีทางไป ดังนั้น  สโลแกนพรรคที่ตั้งไว้มักจะเป็นสิ่งที่ตรงข้ามเสมอ

'สโลแกนสัจจะนิยม ถามว่าวันนี้ท่านมีสัจจะหรือไม่ รวมถึงยืนหยัดชัดเจน ก็ได้เตือนไปแล้วว่าพรรคชาติไทยประกาศแบบนี้ไม่ได้  เพราะหัวหน้าพรรคชอบกลับคำพูดทีหลัง ซึ่งมีความชัดเจน จากการที่ท่านพูดแบบปากสั่น ลิ้นคับ น้ำตาคลอเพื่อขอร่วมรัฐบาล โดยอ้างว่า ถ้าไม่มีพรรคชาติไทยจะไม่เกิดความสมานฉันท์ บ้านเมืองไปไม่ได้ ถามหน่อยว่า ท่านอายุจะ 80 ปี ชีวิตเคยตัดเสื้อผ้า เมียขายขนม จนได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี  ถามว่าท่านยังต้องการอะไรอีก' นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวว่า

นายบรรหารควรจะวางบทบาทใหม่ และอยากจะบอกว่าคำว่า 'หลงจู๊' ที่นายบรรหารเป็นนั้นมีความแตกต่างจาก ‘เถ้าแก่’ เพราะหลงจู๊ไม่สามารถวางทายาทและไม่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนา อีกทั้งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้  และการเป็นหลงจู๊คือคนที่คิดแต่จะเอาประโยชน์ต่อหน้าและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มีความคับแคบ

อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า
 
ไม่ติดใจที่นายบรรหาร ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน แล้วโดดเดี่ยวพรรคประชาธิปัตย์ แต่ติดใจ 5 ข้อที่ได้ยื่นเงื่อนไขไปแต่ทางพรรคพลังประชาชนยังไม่ได้ตอบว่าจะปฏิบัติตาม 5 ข้ออ้างนั้น แต่นายบรรหารกลับทำเป็นลืมโดยอ้างว่าบ้านเมืองจะต้องไปได้

'ขณะนี้ทั้งนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานคณะที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน ต่างก็สงสัยในสัจจะนิยมของท่านหมดแล้ว เพราะท่านไร้สัจจะ ไม่มีจุดยืน โกหกประชาชน ยกข้ออ้างบังหน้า ยอมโดนด่าเพื่อร่วมรัฐบาล ตลอดจนปล้นคะแนนชาวบ้าน ลุ่มหลงลาภยศ จนสังคมต้องผิดหวัง มีคนแบบท่านทำให้การเมืองไม่ก้าวหน้าและท่านได้มีจุดจบทางการเมืองได้อย่างน่าเวทนาที่สุดที่ตระบัดสัตย์ได้อย่างแนบเนียนแบบนี้' นายชูวิทย์ กล่าว

อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวอีกว่า 

 จากนี้ไปจะเป็นฝ่ายค้านนอกสภาจะมีการตรวจสอบการทำงานของทุกกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงศึกษาธิการ ว่ารัฐมนตรีมีพฤติกรรมเหมาะสมหรือไม่ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่ง ตนจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านคนที่ 166 นอกสภา และตนจะขึ้นป้ายมีข้อความสะท้อนพฤติกรรมของนายบรรหารเช่น เป็นผู้ลุ่มหลงลาภยศเป็นต้น  โดยบริเวณป้ายที่จะขึ้นนั้นจะอยู่ที่ทางด่วนย่านมักกะสัน อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิและบางนา ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม เป็นต้นไป