นายบรรหาร กล่าวว่า วันที่ 28 ม.ค. ตนไม่สบายมาก ความดันขึ้นสูงเข้าร.พ.รามา 2 ทุ่ม
ตัวแทนพรรคพลังประชาชนเกือบ 10 คน ใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ไปเยี่ยมไข้ และบอกอยากให้พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินเข้าร่วมรัฐบาล และว่าจะทำให้เกิดความมั่นคง เศรษฐกิจจะดีขึ้น ความน่าเชื่อถือของคนในชาติ นักธุรกิจและต่างประเทศจะกลับคืนมา ตนจึงถามว่า 5 ข้อที่ประกาศไปยอมรับได้หรือไม่ เขาก็บอกว่ายอมรับได้ตนก็ไม่ขัดข้อง เป็นการยอมรับโดยพฤตินัย และตนบอกต้องรีบไปพรรคเพื่อแผ่นดินไปพบนายวัฒนา และแกนนำ ไปเชิญเข้าร่วมรัฐบาล รุ่งขึ้นวันที่ 29 ธ.ค. เวลา 11.00 น. คณะเดียวกับที่มาหาตน ได้ไปบ้านนายวัฒนาและผู้นำพรรคเพื่อแผ่นดิน
นายบรรหาร กล่าวว่า แนวโน้มไม่มีอะไรขัดข้อง รอว่าจะประกาศเป็นทางการเมื่อไหร่ 2
พรรคกำหนดว่าประกาศวันที่ 2 ม.ค บังเอิญสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สิ้นพระชนม์ จึงไม่สามารถประกาศได้ และรัฐบาลประกาศไว้ทุกข์ 15 วัน ประจวบเหมาะกับมีการประกาศของกกต.ว่ายังไม่ประกาศรับรองส.ส.พรรคพลังประชาชน 65 คน เพื่อแผ่นดิน 6 คน ชาติไทย 4 คน ประชาธิปัตย์ 6 คน ช่วงเวลา 15 วันจะรอดูว่าใบเหลืองใบแดงพรรคไหนจะได้มากน้อยแค่ไหน แต่คำนวณแล้วได้มากน้อยแค่ไหนตัวเลขผันแปรที่ได้ผู้แทนฯ ต่ำกว่า 315 คนคงยาก ซึ่งวันนี้ก็เป็นจริงอย่างที่คาด วันที่ 7 ม.ค. หลายฝ่ายรุมล้อมตนว่าน่าจะประกาศ ตนก็โอเค โดยพฤตินัยไม่ใช่นิตินัยพรรคชาติไทยยินดีเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่ต้องรอประกาศเป็นทางการเพราะให้สัญญาพรรคเพื่อแผ่นดินเพื่อประกาศพร้อมกัน เพราะตกลงกันว่าจะไปไหนไปกัน หลังวันที่ 7 ม.ค. เราก็นิ่ง ไม่พูดอะไรเลย
"มาวันนี้เรา 2 พรรคอยากกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เราคงให้ประเทศไทยเกิดสุญญากาศทางการเมืองไม่ได้เด็ดขาด ต้องมีรัฐบาลโดยเร็ว มีครม.เข้ามาบริหารชาติตามระบอบประชาธิปไตย ผลดีจะเกิดต่อประเทศชาติ อยากกราบเรียนว่าข้อยุตินี้ขอประกาศเป็นทางการต่อหน้าสื่อและพี่น้องว่าพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน 2 พรรค 61 เสียง ยินดีเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนต่อไป" นายบรรหารกล่าว