พปช.เลื่อนแถลงตั้งรัฐบาลเป็น19ม.ค.ยันเสนอสมัครเป็นนายกฯ

นพ.สุรพงษ์ เผย 19 ม.ค. แถลงจัดตั้งรัฐบาล คาดได้นายกฯ คนใหม่ปลายเดือนนี้ ระบุ พปช.ยังยึดหลักการเดิม เสนอ “สมัคร” เป็นนายกฯ ส่วน ครม.ทั้งคณะไม่เกินปลาย ก.พ.คงเรียบร้อย ย้ำยังไม่มีการพูดเรื่องเก้าอี้ รมต.เวลานี้ ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวปล่อย

 
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เปิดเผยความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลว่า หลังจากที่พรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน ประกาศร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ คืนนี้ (17 ม.ค.) พรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำ จะเชิญหัวหน้าพรรคหรือผู้แทนมาแถลงร่วมกันอีกครั้ง ในบ่ายวันเสาร์ที่ 19 มกราคม แต่ยังไม่สามารถกำหนดเวลาและสถานที่ที่ชัดเจนได้ ต้องรอการประสานงานอีกครั้ง

“ที่ต้องเลื่อนจากวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) เพราะแกนนำติดภารกิจรณรงค์เลือกตั้งใหม่ ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ ก็จะรอให้เปิดสมัยประชุมรัฐสภา และเรียกประชุมสภาฯ เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้วจึงเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการต่าง ๆ จึงจะมีการวางแนวทางการทำงานร่วมกัน และคัดสรรบุคคลมาร่วมงาน ดังนั้น จึงขอปฏิเสธข่าวการแบ่งเก้าอี้ จัดสรรโควตาให้พรรคร่วมรัฐบาล” นพ.สุรพงษ์ กล่าว

ต่อกระแสข่าว ส.ส.อีสาน พรรคพลังประชาชน รวมกลุ่มขอตำแหน่ง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ได้สอบถามประธานกรรมการประสานงานภาคอีสานแล้ว

ยืนยันไม่มีใครมีแนวทางเช่นนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามปล่อยข่าวมากมาย ซึ่งจะมีทุกครั้งที่จะมีการตั้งรัฐมนตรี และว่าการคัดสรรบุคคลมาดำรงตำแหน่ง จะเปิดโอกาสให้สมาชิก ส.ส.และแกนนำ เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสม ก่อนกลั่นกรองร่วมกัน เพราะผู้ที่เข้ามาทำงานจะต้องแก้ไขปัญหาหนักหน่วง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ใช่เรื่องระดับชาติ แต่เป็นระดับโลกแล้ว

สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ก่อนการเลือกตั้งมีชื่อนายทนง พิทยะ นพ.สุรพงษ์ ยอมรับว่า เคยมีการพูดถึง แต่ไม่ได้มีรายชื่อเดียว

และยังหาข้อสรุปไม่ได้ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย คุณสมบัติสำคัญคือ จะต้องมีความรู้ความสามารถด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะต้องเป็นคนที่ทหารยอมรับ“คาดว่าจะได้ตัวนายกรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ ส่วนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะคงจะทราบได้ช่วงกลาง-ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ขอยืนยันว่าไม่มีการต่อรองเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีจากผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ไม่มีการเกี้ยเซียะใด ๆ และที่ผ่านมา ชื่นชมที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พูดชัดเจนว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ประกาศให้ทหารกลับกรม กอง ให้การเมืองแก้ปัญหากันเอง และเมื่อตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว คงได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก” นพ.สุรพงษ์ กล่าว

ต่อกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน

เหมาะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี นั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และขอขอบคุณอีกหลายคนที่ออกมาสนับสนุนนายสมัคร ขอยืนยันว่า พรรคพลังประชาชนยังยึดหลักการเดิม คือ เสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวยอมรับว่ามีกระแสข่าวจะไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีในหลายกระทรวง แต่คงจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม สำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหลายรายชื่อที่พิจารณาอยู่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ส่วนที่ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีเลือกตั้งหลายคดีวันพรุ่งนี้ จะมีผลต่อการตั้งรัฐบาลหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ เชื่อว่าข้อมูลที่พรรคพลังประชาชนชี้แจงไปจะได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ มั่นใจว่าสิ่งที่ปฏิบัติไปได้ทำตามระเบียบและกฎหมาย

ด้านนายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ปฏิเสธกระแสข่าวกลุ่มบ้านเลขที่ 111

เสนอคนของตัวเองเป็นรัฐมนตรี และข่าว ส.ส.อีสานขอโควตารัฐมนตรี รวมทั้งข่าว น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา จะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีเป็นไปตามระบบและการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชาชนจะยังดูกระทรวงหลัก เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงต่างประเทศ ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ว่า นายสมัคร สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ถือเป็นการให้สัมภาษณ์ตามหลักการประชาธิปไตย ไม่ใช่เพราะมีอำนาจกำหนดอะไรในพรรคพลังประชาชน

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดี โดย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์