ปปช.ยกคำร้อง สนธิ จดทะเบียนซ้อน

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. นายกล้านรงค์ จันทิก ป.ป.ช. เปิดเผยถึงผลการประชุม ป.ป.ช.วันเดียวกันนี้ว่า

ที่ประชุมได้พิจารณาข้อกล่าวหา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี กรณีกระทำผิดกฎหมายจดทะเบียนสมรสซ้อน ตามที่กลุ่มพิราบขาว 2006 กล่าวหา พล.อ.สนธิว่า ขณะมียศร้อยโทได้จดทะเบียนสมรสกับนางสุกัลยา บุญยรัตกลิน และนางวรรณา บุญยรัตกลิน และขณะมียศร้อยเอกได้สมรสกับนางปิยะดา บุญยรัตกลิน ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการกล่าวหา พล.อ.สนธิทำการ จดทะเบียนสมรสซ้อน ซึ่งเป็นการกระทำผิดอาญาในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่การกล่าวหาว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือการทุจริตต่อหน้าที่ คำกล่าวหาดังกล่าวจึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์มาตรา 66 ของกฎหมาย ป.ป.ช.จึงมีมติไม่รับพิจารณา

ตั้งทีมเชือด “โฆสิต” เอื้อ บ.ผาแดงฯ
 

นายกล้านรงค์กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ยังมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายโฆสิต ปั้นเปียมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีช่วยเหลือบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ให้ได้รับการผ่อนผันจาก ครม. ในการใช้พื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เพื่อทำเหมืองแร่สังกะสี อ.แม่สอด จ.ตาก และต่ออายุประทานบัตรให้บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ทำเหมืองแร่สังกะสีต่อไปได้ เนื่องจากนายโฆสิตเคยดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทดังกล่าวมาก่อน ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวหา ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า คำกล่าวหาดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรา 66 ของกฎหมาย ป.ป.ช. จึงมีมติรับไว้พิจารณา และให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป โดยมอบให้ตนเป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน