เจ๊หน่อย ย้ำชัด แม้ว เบอร์ 1 ปาร์ตี้ลิสต์ - เรียก ทรท.ถกเลือกตั้ง 16 พ.ค.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2549 19:25 น.

สุดารัตน์ พูดชัด ทักษิณ ต้องปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 เตรียมเรียกประชุม ส.ส.ทรท.ทั้งหมดกำหนดทิศทางการเมือง 16 พ.ค.นี้ ชูปฏิรูปการเมืองรอบ 2 หาเสียงเลือกตั้งใหม่ ปัดพูดเว้นวรรค โยนผู้บริหารพรรคชี้ขาดอนาคตหัวหน้า ด้าน วังน้ำยม ไม่หวั่นแก้ล็อก 90 วัน มั่นใจยังเหนียวแน่

วันนี้ (9 พ.ค.) ที่พรรคไทยรักไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง ซึ่งได้มีการมอบหมายให้บุคคลต่างๆ ไปทำหน้าที่แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งวันที่เท่าไหร่เพราะต้องรอดูความชัดเจนของคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) ทั้งนี้ พรรคจะเรียกประชุมอดีต ส.ส.ทั้งหมด ในวันที่ 16 พ.ค.เวลา 14.00 น.เพื่อให้ทราบทิศทางการดำเนินการที่ชัดเจนของพรรค

เมื่อถามว่าผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ยังเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ต้องเป็นหัวหน้าพรรค เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ จะตัดสินใจอย่างไรเราคงต้องหารือก่อน เพราะต้องดูใน 2 ส่วน ส่วนแรก คือ เราเป็นพรรคการเมืองมีหน้าที่ต่อประชาชน และประเทศชาติ ดังนั้น การตัดสินใจเรื่องอนาคตทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องมีการคุยในคณะผู้บริหารพรรค

เมื่อถามว่า พรรคไทยรักไทย ยังยืนยันจะปฏิรูปการเมืองรอบ 2 หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวยืนยันว่า แน่นอน เพราะได้เขียนไว้ในจุดยืนของพรรค ว่า เราจะทำในเรื่องของการปฏิรูปการเมืองเพื่อสร้างกลไกการตรวจสอบ และการป้องกันการทุจริตและคอร์รัปชัน รวมทั้งยังชูนโยบายที่ได้ดำเนินการมาตลอด 5 ปี ซึ่งจะมีทั้งนโยบายเก่าและใหม่

ส่วน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงนโยบายปฏิรูปการเมืองของพรรคไทยรักไทย ว่า ยังไม่ได้คุย เพียงหารือเกี่ยวกับข่าวที่ออกมา เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ความชัดเจน ซึ่งต้องรอคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ถึงจะได้มีการแถลงท่าทีต่อไป เพียงแต่ทราบว่า วันนี้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจุดยืนของพรรคไทยรักไทย คือ น้อมรับในพระราชดำรัสและคำวินิจฉัยของศาล ส่วนผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ยังคงเป็นนายกฯหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะคณะผู้บริหารพรรคยังไม่ได้ประชุมกัน

ด้าน พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวภายหลังเข้าร่วมประชุมหารือกับคณะผู้บริหารพรรคไทยรักไทย ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธาน ว่า การประชุมครั้งนี้แกนนำของพรรคได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียง พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในฐานะ รมว.กลาโหม ที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ในที่ประชุมไม่ได้หารือถึงการเว้นวรรคการดำรงนายกรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และยังไม่ได้มีหารือถึงการเตรียมการเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งยังไม่ได้มีการกำหนดรายชื่อผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อแต่อย่างใด เพราะต้องรอฟังคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญก่อน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เน้นย้ำขอให้ทุกคนน้อมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ การปราบยาเสพติดและปัญหาความยากจน อย่างไรก็ตาม นายกฯไม่ได้แนะนำอะไร เพียงขอให้รักษาการนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ขณะที่ นายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มวังน้ำยม พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า สมาชิกพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค กำลังรอคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ ส่วนตนคิดว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเรียกประชุมสมาชิกพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าจะสู้ต่อในฐานะหัวหน้าพรรค พร้อมกลับเข้ามาเป็นนายกฯ อีก หรือจะเว้นวรรค แล้วให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน เพื่อที่พรรคจะได้เดินหน้าไปอย่างมีจุดหมายที่ตรงกัน เหมือนกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า พรรคไทยรักไทยต้องเป็นสถาบัน เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยู่ต้องมีตัวตายตัวแทนมาทำหน้าที่แทนได้ และหากจะตัดสินใจอย่างไรต้องถามมติที่ประชุมด้วย โดยทำทุกอย่างตามระบบพรรคการเมือง

นายโสภณ ยังแสดงความมั่นใจว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจเว้นวรรค ตนยังเชื่อมั่นว่าคงไม่กระทบกับการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทย เพราะประชาชนจะตัดสินใจที่การนำเสนอนโยบายพรรค ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของพรรคไทยรักไทย ดังนั้น จึงอยากให้ทุกพรรคนำเสนอนโยบายมาสู้มากกว่าด่ากันไปมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเว้นระยะเวลานานขนาดนั้น พรรคไทยรักไทยอาจแตกได้ เพราะสมาชิกหลายคนอาจย้ายไปอยู่พรรคอื่น นายโสภณ กล่าวว่า แล้วแต่ใครจะไปก็ไป ถ้าทำดีอยู่แล้วไม่ต้องกลัวอะไร ส่วนกลุ่มวังน้ำยมตอนนี้มีสมาชิกอยู่ 120 คน ยังอยู่กับพรรค ไม่ได้คิดย้ายไปไหน ทั้งนี้ หากใครคิดย้ายพรรคต้องคิดให้หนัก โดยเฉพาะความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองนั้น สำหรับตนพร้อมรับมือสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นมานาน 2 เดือนแล้ว และกลุ่มวังน้ำยมไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ในพรรคไทยรักไทย ยังมีกลุ่มอื่นที่ใหญ่กว่ามาก