พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวยืนยันถึงรายงานข่าวการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคพลังประชาชนว่า
กระทรวงที่เกี่ยวกับการกำหนดยุทธศาสตร์หลักของประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง คือกระทรวงมหาดไทยและกลาโหม คนดูแลต้องเป็นคนของพรรคพลังประชาชนเท่านั้น โดยคาดว่าการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีใกล้จะสะเด็ดน้ำ โดยหลังวันที่ 20 มกราคม จะได้ความชัดเจนขึ้น ซึ่งการเลือกตั้งซ่อมและเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่ต่างๆ เสร็จสิ้นลงแล้ว เพราะเวลานั้นตัวเลขจำนวนส.ส.จะนิ่งว่า ส.ส.แต่ละพรรคจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นจำนวนเท่าใด
พ.ต.ท.กานต์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมเข้าชื่อเพื่อยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ให้ยกเลิกผลสอบสวนประกอบการพิจารณาให้ใบแดง ใบเหลือง ของชุดอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนชุดพิเศษ ที่มีพล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รอง ผบช..เป็นประธาน หลังพบข้อมูลชัดเจนว่า พล.ต.ต.ชัยยะ ถูกแต่งตั้งด้วยความไม่เป็นกลางโดยเป็นที่ประจักษ์ขัดต่อหลักกฎหมาย เพราะมีความสนิทสนมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถึงขั้นเรียกได้ว่า เป็นลูกบุญธรรม
ดังนั้นผลสอบของทุกพรรคที่มาจากอนุกรรมการชุดดังกล่าวต้องยกเลิกทั้งหมดรวมถึงคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนด้วย
เนื่องจากเป็นโมฆะ เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถึงจะตั้งกรรมการสอบสวนใหม่ก็ไม่มีประโยชน์ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการยุบพรรคการเมือง ซึ่งเกิดขึ้นง่ายมากเกินไป ตอนนี้ทุกพรรคที่ผู้สมัครได้ใบแดงต่างก็ตกนั่งเดียวกัน โดยที่คนในพรรคไม่ได้รู้เห็นด้วยทั้งหมด ทั้งนี้ถ้าดำเนินการจริงจัง และให้เป็นธรรม กกต.ต้องสอบกรณีที่นายบุญมาก ศิริเนาวกุล อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ใบแดงเพราะซื้อเสียงด้วยว่ากรรมการบริหารพรรคเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะเรื่องอย่างนี้ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นกรรมการบริหารพรรคก็มีส่วนรู้เห็นด้วยได้
พ.ต.ท.กานต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี มีหนังสือขอตัวบุตรสาวนางสดศรี สัตยธรรม กกต.มาช่วยราชการว่า
โดยภาพรวมย่อมมีผลกระทบต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพราะเป็นประเด็นที่ชวนให้ผู้สงสัยเรื่องความเป็นกลาง ตนถือว่า เรื่องนี้เป็นกงกรรม กงเกวียน ส่วนตัวก็ได้แต่เห็นใจและลำบากใจแทนนางสดศรี จะตัดสินให้ใบแดงพรรคพลังประชาชนก็ลำบาก เพราะลูกสาวถูกขอตัวไปช่วยงาน คมช.ส่วนพล.อ.สนธิ จะชี้แจงก็คงลำบากเพราะมีหนังสือขอเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงว่าต้องพูดต้องสั่งกันได้ถึงขอลูกสาวมาทำงานได้ จะแก้ตัวอย่างไรสังคมก็คงไม่เชื่อ