สนช.ไม่เชื่อยุบ พปช.แล้วจะนองเลือด

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่อาจจะมีการยุบพรรคพลังประชาชนว่า

ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักฐานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ความผิดต้องมีความชัดเจน กกต.ต้องพิจารณาไปตามกฎหมายเลือกตั้ง ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ว่าพรรคนั้นจะเล็กหรือใหญ่เพียงใด ไม่มีข้อยกเว้น เพราะการตัดสินที่ไม่ได้อยู่บนหลักของข้อกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ ย่อมส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของการเมืองไทย ดังนั้น กกต.ต้องหนักแน่น และระมัดระวังเป็นพิเศษ และหากมีการยุบพรรคจริง มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ ร้ายแรงถึงขั้นนองเลือด เพราะผู้เขียนกฎหมายเรื่องการยุบพรรคได้คาดการณ์ผลกระทบก่อนที่จะเขียนลงไปแล้ว

ส่วนพรรคที่ถูกยุบทิ้งยังมีทางออกตามกระบวนการทางการเมือง

 เช่น ไปหาหัวพรรคการเมืองใหม่มาสวมแทน เพียง 2-3 วันก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว จะยุ่งยากเพียงขั้นตอนการประชาสัมพันธ์พรรคใหม่เท่านั้น ส่วนสถานภาพของ ส.ส.ที่ได้รับเลือกเข้ามาก่อนถูกยุบพรรคก็ไม่ได้สิ้นสุดตามคำตัดสินไปด้วย ดังนั้นถ้าพรรคยังรักษาจำนวน ส.ส.เดิมเอาไว้ได้ พรรคนั้นก็ยังสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไปได้เหมือนเดิม

“สุวัจน์” เชื่อตั้ง รบ.ได้ทุกอย่างคืนสู่ปกติ
 

ที่ จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 1 ใน 111 ที่ถูกตัดสิทธิการเมือง และแกนนำกลุ่มชาติพัฒนากล่าวว่า

เรามีการเลือกตั้งไปแล้ว ทำให้บ้านเมืองกลับมาเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้งหนึ่ง และเรากำลังจะมีรัฐบาล ฉะนั้นสิ่งที่เราเคยเสียเปรียบเขาวันนี้เรากลับมาเท่าทุน กลับมาเหมือนกับทุกประเทศที่ได้รับการยอมรับในสังคมโลก คือเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย จากนี้ไปตนเชื่อมั่นว่าเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเราจะสามารถเรียกความเชื่อมั่น สร้างความเป็นสากลให้เกิดขึ้นในสายตาของคนต่างประเทศ ทั้งการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้น ความสมานฉันท์ต่างๆจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ และตรงนั้นคือโอกาสทองของ จ.นครราชสีมา ที่จะมีทั้งเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยวจากการจัดกีฬาซีเกมส์โคราช แล้วนำไปสู่การเผยแพร่ภาพพจน์ ที่ดีงาม ที่จะเป็นพื้นฐานต่อการลงทุน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจของเมืองโคราชต่อไป