มติ 3 ศาล แนะกกต.ลาออก ชี้หมดความชอบธรรมดูแลการเลือกตั้ง

มติ 3 ศาล บี้ กกต.ลาออก ชี้หมดความชอบธรรมดูแลการเลือกตั้ง

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2549 12:04 น.

ที่ประชุม 3 ประมุขศาลมีมติชัด การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เป็นสาเหตุมาจากการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องของ กกต. โดยทั้ง 3 ศาลจะต้องเข้าไปดูแลการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นใหม่ และภารกิจทั้ง 3 ศาลจะยุติลงจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาล และสภาที่เป็นที่ยอมรับของประชาชน พร้อมแนะ 2 แนวทางให้ กกต.เลือก คือ ขอสนับสนุนให้ศาลเข้าไปช่วยดูแลการเลือกตั้ง และขอให้เสียสละด้วยการลาออก

วันนี้ (9 พ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ศาลฎีกา นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายวิรัตน์ ชินวินิจกุล เลขานุการศาลฎีกา ได้แถลงผลการประชุมประธาน 3 ศาล ซึ่งประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครอง และประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศ ตามแนวพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายจรัญ กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีการหารือในประเด็นหลัก 2 ข้อ คือ 1.ความชัดเจนของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานที่ผ่านมา ที่เห็นว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งที่ประชุมได้รับการยืนยันจากนายผัน จันทรปาน รักษาการประธานที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญ ว่าตุลาการเสียงข้างมาก 8 เสียง เห็นว่า เหตุสำคัญที่ทำให้การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ได้จัดการเลือกตั้งให้เป็นความลับ อันเป็นสาเหตุมาจากการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องของ กกต.

2.ประเด็นเรื่องภารกิจกิจของทั้ง 3 ศาล ในการกู้วิกฤตของประเทศชาติ ถือว่าจบลงแล้วหรือยัง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ประธานทั้ง 3 ศาลเห็นว่ายังไม่จบสิ้นลงเพราะยังคงมีปัญหาความขัดแย้งทางด้านกฎหมายของแต่ละฝ่าย จนลุกลามไปถึงความขัดแย้งทางความคิดของประชาชน และความไม่ไว้วางใจในการจัดการเลือกตั้ง ดังนั้น หากจะปล่อยให้กระบวนการดำเนินการไปตามที่เป็นอยู่ อาจจะส่งผลกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุข

ดังนั้น ทั้ง 3 ศาลจึงต้องเข้าไปดูแลการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นใหม่ให้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และเป็นที่พอใจของประชาชน โดยภารกิจของทั้ง 3 ศาลจะยุติลงจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาล และสภาที่เป็นที่ยอมรับของประชาชนอย่างแท้จริง

นายจรัญ กล่าววอีกว่า โดยเบื้องต้นที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายวิชาการของสำนักงานศาลยุติธรรม นำโดยตนเองรับภาระไปทำการศึกษา และนำเสนอแนวทางต่อที่ประชุม 3 ศาลอีกครั้ง ซึ่งในเบื้องต้นทางฝ่ายวิชาการเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคนกลางซึ่งเป็นที่ยอมรับท่ามกลางความขัดแย้งเข้าไปจัดการการเลือกตั้ง

โดยเบื้องต้นเห็นว่า มีแนวงทางการดำเนินการอยู่ 2 แนวทาง คือ 1.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 145 วรรค 2 ที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถขอความสนับสนุนเพื่อให้ศาลซึ่งเป็นผู้เป็นกลางช่วยดูแลในการจัดการเลือกตั้ง แต่ก็ยังติดปัญหาอยู่ว่าหากดำเนินการตามแนวทางนี้ แต่ กกต.ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาอยู่ และศาลอาจจะเข้าไปดำเนินการได้เพียงในส่วนที่ กกต.ขอความช่วยเหลือเท่านั้น

ส่วนแนวทางที่ 2 คือ ฝ่ายวิชาการเห็นว่าผู้ที่จะเข้าไปจัดการเลือกตั้งควรให้เป็นที่การยอมรับ แต่เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ บ่งบอกชัดเจนว่าการดำเนินการของ กกต.ชุดปัจจุบัน เป็นสาเหตุทำให้การเลือกตั้งผิดพลาด ทำให้การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จะต้องมีผู้รับผิดชอบในการจัดการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางที่ 2 นี้ ตนยังต้องพิจารณากันว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ กกต.จะแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก เพื่อเปิดช่องให้สังคม และนำไปสู่การดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 138 (3) ที่ศาลฎีกาจะสามารถเสนอผู้ที่จะเป็น กกต.ชุดใหม่ไปยังวุฒิสภา ภายหลังคณะกรรมการสรรหาไม่สามารถจัดขึ้นได้ภายใน 30 วัน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องตีความถ้อยคำในกฎหมายอีกครั้ง

การนำเสนอแนวทางแก้ปัญหานี้ ไม่ได้เป็นการกดดันให้ กกต.ลาออก แต่เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลทางกฎหมายของฝ่ายวิชาการ ตามแนวทางคำวินินฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหาก กกต.ทั้ง 4 ท่านเลือกแนวทางนี้แล้วตัดสินใจลาออกก็จะถือเป็นคุณูปการของการเมืองไทย ทำให้ประเทศชาติไม่เข้าสู่ทางตัน นายจรัญ กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์