เผยแม้ว ดิ้นเคลียร์ทุกขั้วขอสมานฉันท์

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชาชน

จนถึงนาทีนี้ว่าแกนนำหลายคนเริ่มมีความไม่แน่ใจว่าพรรคจะได้จัดตั้งรัฐบาลตามที่พยายามล็อกขั้วเอาไว้แต่แรก ด้วยเหตุผลสองเรื่องก็คือ กรณีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช และกรณีการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ซึ่งทั้งสองเรื่องใหญ่ๆ นี้ เป็นเหตุผลให้พรรคอาจถูกยุบได้ ซึ่งทันทีที่มีสัญญาณว่าพรรคถูกยุบ ก็จะทำให้ขั้วเปลี่ยนทันที แม้ว่าการยุบพรรคจะยังต้องอาศัยเวลาอีกนานก็ตาม และถึงแม้ยุบจริงก็ได้เตรียมทาบทามพรรคเล็กที่จะเข้าไปเทกโอเว่อร์ไว้แล้ว
 

แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชนกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้พยายามติดต่อเจรจากับฝ่ายผู้มีอำนาจในบ้านเมือง 

ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อเข้าพบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รวมถึงการเจรจากับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพื่อขอสมานฉันท์ แต่เนื่องจากการต่อรองของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเงื่อนไข ทางรัฐบาลจึงไม่อาจยอมรับได้ "ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ติดต่อมาพร้อมกับตั้งเงื่อนไขเรื่องคดีที่ คตส.ทำว่า ขอให้ยุติ และให้โอนงานที่ คตส.ทำไปเป็นของ ป.ป.ช. แต่รัฐบาลไม่สามารถทำให้ได้ เงื่อนไขเดียวที่รัฐบาลจะตกลงก็คือการให้กลับมาสู้คดีโดยปกติ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ยอมเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลสำคัญก็คือ กลัวถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คาดการณ์ไม่ผิด เพราะทันทีที่ส่งคุณหญิงพจมานเข้ามอบตัว ก็ถูกศาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศจริงๆ" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชนกล่าวอีกว่าเมื่อการเจรจาไม่ได้ผลจึงทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดับเครื่องชนด้วยการประกาศจัดตั้งรัฐบาล 

ด้วยเชื่อมั่นว่าแม้จะถูกออกใบเหลืองหรือใบแดง ก็ไม่อาจทำให้ตัวเลขเปลี่ยนแปลงได้มากนัก และทันทีที่พลังประชาชนได้เป็นรัฐบาล อำนาจรัฐอยู่ในมือ ก็จะไม่ถูกเช็กบิลด้วยเรื่องใดๆ อีก  "แต่สถานการณ์ผิดคาดไปจากแผนที่วางไว้ รัฐบาลไม่สามารถจัดตั้งได้เร็ว และดูมีแนวโน้มยืดเยื้อ จนอาจถูกยุบพรรคอีก จึงได้มีพยายามเจรจาต่อรองในเรื่องคดีความเพื่อแลกกับการยุติบทบาททางการเมืองทุกอย่าง ถึงขนาดเริ่มมีการปล่อยกระแสรัฐบาลแห่งชาติ โดยให้พรรคอันดับหนึ่งและสองจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเป็นทางออกให้ประเทศชาติ แต่สูตรนี้ก็ได้รับการปฏิเสธจากพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว" แหล่งข่าวกล่าว