ปชป.ให้ ไชยวัฒน์ ถอนฟ้องเลือกตั้งโมฆะ

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า

บรรยากาศของบ้านเมืองขณะนี้ยังอยู่ในช่วง ที่ประชาชนคนไทยไว้ทุกข์ถวายอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ จึงจะไม่ให้ความเห็นในลักษณะที่ก่อให้เกิดความสับสนหรือขัดแย้ง จุดยืนของพรรคคือขอให้ความมั่นใจกับทุกฝ่ายว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยึดถือตามกฎกติกามารยาทของการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และเป็นการปกครองในระบอบรัฐสภา คือ เมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว หากไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมาก จะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองไปรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังมีปัญหาว่าจะต้องได้รับการรับรองจาก กกต. ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสและไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลแข่ง แต่วันนี้เรายังอยู่ในช่วงสถานการณ์ ที่ยังไม่นิ่ง พรรคประชาธิปัตย์จึงจะขอรอดูท่าทีของพรรค การเมืองต่างๆต่อไป 

ยังเปิดทาง พปช.จัดตั้งรัฐบาลต่อ
 

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีข้อเสนอให้ พรรคการเมืองใหญ่มารวมกันตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ไม่ ขอแสดงความคิดเห็น เพราะเกรงจะเกิดความสับสน แต่ ยืนยันว่า พรรคอยากเห็นระบบเดินไปข้างหน้า ส่วนใครจะเป็นรัฐบาล สูตรไหนอย่างไร ยังมีเวลาที่จะรอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ขอให้ทุกฝ่ายมุ่งมั่นร่วมกันที่จะให้ระบบรัฐสภาเดินหน้าต่อไปได้ด้วยดี และพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายและรัฐธรรมนูญทุกประการ เรื่องอื่นถ้าพูดตอนนี้จะเป็นเงื่อนไขว่าตอบโต้ขัดแย้ง ปฏิเสธกัน แต่จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจน ส่วนที่เคยพูดไปจะเป็นไปตามนั้น ตอนนี้ยังไม่มีข้อเสนออะไรทั้งสิ้น ช่วงที่พรรคพลังประชาชนดำเนินการอยู่ เดิมบอกจะแถลงวันที่ 4 ม.ค. แต่เราเข้าใจว่า มีกรณีเกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีอะไรเพิ่มเติม 

ให้ “ไชยวัฒน์” ถอนฟ้องเลือกตั้งโมฆะ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ ร้องต่อศาลที่จะให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะนั้น นายไชยวัฒน์ใช้สิทธิในฐานะผู้สมัคร ส.ส.โดยไม่ได้ปรึกษากับตนและพรรค  กรณีนี้ไม่ใช่จุดยืนของพรรค  ตนจึงได้ ขอให้นายไชยวัฒน์ไปถอนในประเด็นที่จะให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เข้าใจว่าอาจจะเกิดขึ้นใน 1-2 วันนี้ เพื่อให้ ประชาชนสบายใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีจุดยืนที่จะให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ เมื่อถามว่า การถอนฟ้องเป็นการแสดงถึงความสมานฉันท์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า พรรคต้องการแสดงให้เห็นว่าจุดยืนของพรรคเป็นอย่างไร แต่ในประเด็นที่ร้องให้ดำเนินการกับพรรคพลังประชาชนกรณีที่เป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นคนละส่วนกัน 

วอนอย่าปลุกม็อบกดดัน กกต.

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า พรรคอยากเห็น กกต. สามารถดำเนินการได้ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ โดยเร่งพิจารณาเรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งให้เสร็จได้ทัน ให้มี ส.ส.ครบที่จะเปิดสภาผู้แทนราษฎรตามกำหนด และควรมี ส.ส.ที่เป็นมือบริสุทธิ์เข้าไปชี้อนาคตของชาติบ้านเมืองต่อไป และพรรคอยากเห็นกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามตารางเวลา เพื่อมีรัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างราบรื่น ดังนั้น กกต.จะต้องดำเนินการตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ต้องไม่มีธงทางการเมืองใดๆ ต้องทำงานด้วยความเข้มแข็ง และไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดันต่างๆ โดยส่วนตัวกังวลว่าในช่วงที่ผ่านมาเมื่อมีพรรคการเมืองแสดงอาการในลักษณะที่ไปกดดัน ก็รู้สึกจะทำให้ กกต.ต้องพิจารณาเรื่องนั้นเรื่องนี้ ตนไม่ อยากเห็นภาพเก่าๆกลับมา โดยเฉพาะเรื่องของการมีม็อบมากดดันการทำงานขององค์กรที่จะต้องมีความเป็นกลาง