มาร์ค ยัน ปชป.พร้อมเลือกตั้ง ชู ผู้นำแนวใหม่ สู้ ระบอบทักษิณ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2549 19:24 น.
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชูผู้นำแนวใหม่สู้ระบอบทักษิณ ยัน 3 พรรคอดีตฝ่ายค้านเข้าใจหาเสียงไม่กระทบความสัมพันธ์ เมิน แม้ว เลิกเว้นวรรค ชี้ ไปดูความเหมาะสมเองว่าสมควรหรือไม่ วอนสังคมช่วยจับตาการเลือกตั้งครั้งใหม่ พร้อมขีดเวลาปฏิรูปไม่เกิน 1 ปี
วันนี้ (8 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส พรรคก็ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะให้ศาลเป็นหลักในการคลี่คลายวิกฤต และให้ความร่วมมือ ดังนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว พรรคก็น้อมรับโดยจะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อช่วยกันคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองต่อไป หลังจากนี้ จะได้เดินหน้าในการทำงานจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมายในวันที่ 11 พ.ค.และมีเป้าหมายว่าจะส่งผู้สมัครให้ครบทุกเขต
สำหรับกรณีที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันไม่ลาออก จะมีผลต่อความมั่นใจในการเลือกตั้งแค่ไหนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะต้องรอรายละเอียดของคำวินิจฉัยกลางก่อนว่าการเลือกตั้งที่ไม่ชอบนั้นเกิดจากอะไร และใครมีบทบาทตรงนั้นบ้าง และสมควรจะทำอะไร
ยอมรับว่า เป็นเรื่องลำบากที่จะหวังในแง่ของความเป็นกลางจริงๆ เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันก็ยังมาตอบโต้กับพรรคอยู่ แต่เมื่อพูดไปว่าเราจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตเราก็ต้องเดินหน้า ถึงเสียเปรียบก็สู้ แต่ผมคิดว่า กกต.ต้องไปทบทวนดูทั้งหมดว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรบ้าง และเดินมาสู่จุดนี้ที่จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่เพราะอะไร และสังคมก็คงจะต้องช่วยกันมากยิ่งขึ้นไปอีกในการตรวจสอบให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะต้องมีความชัดเจนหรือไม่ว่าจะวางตัวทางการเมืองครั้งนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แต่ละพรรคคงจะต้องมีจุดยืนของตัวเองออกมา ซึ่งรวมถึงพรรคไทยรักไทยและหัวหน้าพรรคด้วย และถือเป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า จะเว้นวรรคทางการเมืองหรือไม่ ที่จะไปดูความเหมาะสมเอง
เมื่อถามถึงขั้วทางการเมืองของฝ่ายค้านเดิมยังจะทำงานร่วมกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้ง 3 พรรคได้พูดกันไว้ว่าคงจะคุยกันเรื่องปฏิรูปการเมืองกันด้วย และเข้าใจว่า คณะทำงานยังมีการปรึกษาหารือกันตลอดเวลา ฉะนั้น เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยมาก็คงจะมาคุยกันอีกครั้ง และแนวทางที่จะต่อสู้กับระบอบทักษิณจะยังคงอยู่ แต่มั่นใจว่า การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะขอบเขตการทำงานของแต่ละพรรคสามารถที่จะดำเนินการได้อย่างไม่มีปัญหา และสิ่งที่เคยร่วมกันทำงานต่อสู้กันมาก็ยังมีผลต่อไปในระดับหนึ่ง
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้ประกาศเรื่องผู้นำแนวใหม่ ว่า ตนอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันสนับสนุนในแง่ของการที่จะให้เอาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ที่ถูกต้อง และเป็นธรรมสำหรับประชาชนทั้งประเทศกลับมา ซึ่งตรงนี้เป็นเป้าหมายสำคัญในการต่อสู้ทางการเมืองของพรรคอยู่แล้ว รวมถึงประเด็นการเป็นผู้นำแนวใหม่ เพราะแม้ว่าภารกิจของรัฐบาลชุดใหม่จะต้องมีเรื่องของการปฏิรูปการเมือง แต่ปัญหาเฉพาะหน้าที่ประชาชนเดือดร้อนอยู่นั้น ใครเข้ามาเป็นรัฐบาลจะต้องแก้ไข และสิ่งที่สำคัญ คือ ปัญหาต่างๆ ทั้งเฉพาะหน้า และระยะยาวจะต้องเปลี่ยนวิธีการแก้ไขปัญหา ต้องเอาผลประโยชน์ของประชาชนมาก่อน ซึ่งต้องอาศัยผู้นำแนวใหม่
เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ รัฐบาลควรอยู่จนครบวาระ หรือควรจะมีวาระแค่การปฏิรูปการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า งานปฏิรูปการเมืองจะต้องเสร็จในระยะเวลาอันสมควร ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเกิน 1 ปี และการดำเนินการหลังจากนี้อยู่ที่สาระของการปฏิรูป ซึ่งพรรคไม่มีปัญหาในส่วนนี้