ผลาญเงินกกต.ป่วน-สมชัยรุดแจง

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่ กกต.ออกมาระบุว่า องค์กร กลางใช้เงินในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ส.ส. 43 และ ส.ว. 49 ไม่ถูกต้องจำนวน 7,892,555.39 บาท ว่า ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินไปดูรายละเอียดหลักฐานการใช้จ่ายแล้ว ซึ่งในวันจันทร์นี้ ก็จะทำการตรวจสอบ รวมทั้งจะประสานไปยัง กกต. ว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 10 เวลา 09.00 น. พล.อ. สายหยุด เกิดผล ประธานพีเน็ต จะเดินทางไปพบนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง เพราะหากเป็นปัญหาของฝ่ายพีเน็ตก็จะดำเนินการแก้ไข แต่คาดว่าน่าจะเป็นปัญหาที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของ กกต.เอง ในการจัดเก็บเอกสาร เพราะหลักฐานทั้งหมดเราได้ส่งให้ กกต. ไปหมดแล้ว พร้อมทั้งได้มีการตรวจสอบบัญชี โดยพนักงานบัญชีอนุญาตและส่งให้ กกต.ตรวจสอบมีคนเซ็นรับจากฝ่ายการเงินของ กกต.เอง
 
“หลักฐานที่พีเน็ตมีนั้นก็ได้มอบให้  กกต.ทั้งหมด และเหตุการณ์ผ่านมาตั้ง 6-7 ปีแล้ว การจัดเก็บเอกสารของ กกต.นั้นจัดเก็บอย่างไร ทำหรือเปล่า ซึ่ง กกต.ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลตรงนี้ด้วย ไม่ใช่มาโทษเราฝ่ายเดียว แล้วทำไมถึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาตรวจสอบกันตอนนี้อีกมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ตามขออย่าให้ไปซ้ำรอยเดิมก็แล้วกัน หรือต้องการดิสเครดิตเรา ที่ไม่ต้องการให้เราเข้าไปร่วมในการทำงานกับ กกต. ด้วย จึงเพิ่มความขัดแย้งนี้เข้ามาอีก” นายสมชัย กล่าว
 
เมื่อถามว่า ทาง กกต.บอกว่ามีหลักฐานว่า ทางพีเน็ตใช้เด็กอายุไม่ถึง 18 เข้ามาร่วมทำงานด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการนำเงินไปซื้อสุรา เบียร์ ด้วยนั้น นายสมชัย กล่าวอีกว่า กกต.ต้องชี้แจงมาเป็นรายการ ๆ และแยกออกมาว่า เป็นเงินเท่าไหร่ กี่บาทกี่สตางค์ ถ้ามีหลักฐานถูกต้อง ก็ต้องว่ากันไป อย่างไร การไปพบประธาน กกต.ครั้งนี้ อยากให้นายภุชงค์ นุตราวงศ์ รองเลขาธิการด้านกิจการการมีส่วนร่วมเข้ามาร่วมด้วย จะได้สอบถามรายละเอียด นอกจากนี้ตนก็อยากให้สื่อเข้าร่วมรับฟังด้วย เพราะว่าเรื่องนี้ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องตรงไปตรงมา ไม่ใช่อยู่ ๆ ให้ลูกเจ้าหน้าที่มาแถลงข่าวสร้างความเสียหายให้กับคนอื่น อย่างนี้ไม่ได้ เพราะเรื่องสำคัญ กกต.ควรที่จะไตร่ตรองก่อนให้เจ้าหน้าที่ออกมาแถลง
 
ด้านนางสดศรี สัตยธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้พีเน็ตก็ต้องชี้แจง เพราะที่ตรวจสอบมาแล้ว มีการใช้จ่ายไม่ถูกต้องเป็นล้าน และคดีอายุความก็ใกล้หมดแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ทางพีเน็ตชดใช้.