เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน
นายวชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ออกมาระบุว่า ความชัดเจนทางการเมืองของพรรคเพื่อแผ่นดิน ขึ้นอยู่กับนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน ในฐานะผู้สนับสนุนทางการเงินให้พรรคเท่านั้น ว่า ไม่เป็นความจริง พรรคไม่เคยรับฟังมติจากผู้สนับสนุนคนใดคนหนึ่ง และไม่ได้ตัดสินเพียงว่าใครบริจาคเงินให้พรรคมากหรือน้อย ตามที่นายสุรเดชกล่าวหา เนื่องจากพรรคมีผู้สนับสนุนทางการเงินหลายคน ทำงานอยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เพื่อให้ได้มาซึ่งว่าที่ ส.ส. อยากเรียนว่านายสุรเดชเป็นถึงกรรมการบริหารพรรค น่าจะรู้ว่าที่ประชุมกรรมการบริหารและว่าที่ ส.ส.ของพรรค ได้มีมติชัดเจนที่จะมอบหมายให้แกนนำของพรรคทั้ง 3 คนคือนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรค และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นผู้เจรจาหาข้อยุติทางการเมืองในการเข้าร่วมรัฐบาล ดังนั้น จึงควรจะให้เกียรติทุกคนในพรรคในฐานะที่ล้วนเป็นคนสำคัญทั้งสิ้น สอบได้หรือสอบตกล้วนสำคัญเท่ากันหมด ไม่ใช่สอบได้ ส.ส. ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
มีปัญหาอะไรน่าจะมาพูดคุยในพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคเพิ่มอีกหรือไม่ นายวชิระมณฑ์ตอบว่า ทุกคนในพรรคมีสิทธิที่จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน การจะมีความเห็นแตกต่างกันก็น่าจะนำมาพูดคุยในพรรค หรือไม่ก็แจ้งให้แกนนำที่ได้รับมอบหมายจากพรรค 3 คนรับทราบ ไม่ควรออกมาให้สัมภาษณ์ภายนอกเพราะถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ต่อข้อถามว่า จุดยืนขณะนี้ของพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่ตรงไหน โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดินตอบว่า ยังมีจุดยืนเหมือนเดิมคืออยากให้รอการรับรอง ส.ส.ให้เสร็จสิ้นเสียก่อนหลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถประกาศความชัดเจนของพรรคได้ ขณะนี้พรรคยังต้องเตรียมความพร้อมในการหาเสียงเพื่อเลือกตั้งซ่อมในอีกหลายพื้นที่ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เหตุเป็นเพราะแกนนำพรรคไม่ให้ความสำคัญที่จะต่อรองเอากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเหมือนที่เคยประกาศนโยบายไว้หรือไม่ นายวชิระมณฑ์ตอบว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มขั้นตอนการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีจึงยังไม่ได้ข้อยุติ
“ลลิตา” ยัน “สุรเกียรติ์” ไม่เกี่ยวข้อง
นางลลิตา ฤกษ์สำราญ อดีตเลขานุการนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย กล่าวว่า นายสุรเกียรติ์ได้ทราบข่าวนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ที่มีการพาดพิงว่าปัญหาการเข้าร่วมรัฐบาลเกิดจากนายสุรเกียรติ์และนายวัฒนา อัศวเหม ในฐานะที่เคยร่วมงานกับนายสุรเกียรติ์มาตลอด ยืนยันได้เลยว่าไม่เป็นความจริง เพราะการจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ทุกคนในพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นคนตัดสินกันเอง ไม่เกี่ยวกับนายสุรเกียรติ์ อยากทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า ทุกคนไม่ว่าจะสอบได้หรือสอบตก อยู่เบื้องหลังหรือเบื้องหน้า ล้วนมีจุดมุ่งหมายที่ตรงกัน คือต้องการลดความขัดแย้งทางการเมือง และพยายามทำประโยชน์ ให้กับประเทศมากที่สุด ไม่ใช่ต้องการเข้ามาเป็นเจ้าของพรรคหรือหวังตำแหน่ง เมื่อทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่ การให้เกียรติซึ่งกันและกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่ผ่านมา ทุกคนก็ให้เกียรตินายสุรเดช การออกมาให้ข่าวโดยที่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันก่อน ทำให้ผู้ใหญ่ไม่ค่อยสบายใจ เพราะกลายเป็นว่าเข้ามาทำการเมืองเพื่อต่อรองตำแหน่งเป็นภาพที่ไม่งาม พรรคเพื่อแผ่นดินจะได้รับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงอะไร ไม่ใช่เรื่องที่จะไปต่อรองแต่ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชาชนเป็นพรรคที่ได้เสียงข้างมาก จะจัดสรรเก้าอี้ใดมาให้มากกว่า
“สุรเดช” เต้นแจงไม่ขัดแย้งกับพรรค
เย็นวันเดียวกัน นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ส.ส.ระบบสัดส่วน กล่าวปฏิเสธว่า ภายในพรรคเพื่อแผ่นดินไม่มีความขัดแย้งกัน เพราะเคารพและพร้อมปฏิบัติตามมติพรรค ส่วนความเห็นส่วนตัวจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะคิด เมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคก็พร้อมปฏิบัติตามมติพรรคที่มอบหมายให้แกนนำทั้ง 3 คน เจรจาเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล ข่าวที่ออกมาเป็นความเข้าใจผิด ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ ไม่อยากให้ตีความกันไปต่างๆนานา เป็นผู้ใหญ่แล้วหากมีปัญหาขัดแย้งกันแล้วจะทำงานในพรรคราบรื่นได้อย่างไร จึงอยากให้ทุกคนสบายใจว่าจะปฏิบัติตามมติพรรคอย่างแน่นอน
“บรรหาร” เชื่อ พปช.เป็นแกนนำรัฐบาล
ที่พรรคชาติไทย เมื่อเวลา 14.35 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.ยังไม่รับรองว่าที่ ส.ส. ถึง 83 คนว่า ที่ยังไม่รับรองเพราะไม่ยังไม่แน่ เนื่องจากยังมีการร้องเรียนอยู่ และการสอบสวนของ กกต.ยังไม่เสร็จสมบูรณ์จึงยังไม่ประกาศทั้งหมด คิดว่าเร็วๆนี้หลังจากสอบสวนเรื่องร้องเรียนเสร็จแล้ว คงจะทยอยประกาศรับรองไปเรื่อยๆ เป็นธรรมดาในเมื่อ กกต.ทำงานได้แค่นี้ก็ต้องประกาศแค่นี้ก่อน ต้องให้เวลา กกต.อีกสักระยะหนึ่ง เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา ในส่วนของพรรคชาติไทยที่ยังไม่ได้รับการรับรองอีก 4 คนนั้น ได้สอบถามและทราบว่าทุกคนได้ชี้แจงต่อ กกต.จังหวัดไปหมดแล้ว ส่วนของพรรคอื่นก็แล้วแต่ละพรรคไป เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนยังไม่ได้รับรอง 65 คน จะกระทบต่อการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายบรรหารตอบว่า การจะให้โดนใบเหลืองใบแดงทั้ง 65 คนเป็นไปไม่ได้ คงจะมีทั้งใบเหลืองและใบแดงคละเคล้ากันไป และอาจจะมีพรรคอื่นโดนบ้าง
รอแถลงร่วมรัฐบาลพร้อมเพื่อแผ่นดิน
นายบรรหารกล่าวว่า เท่าที่ประเมินไม่น่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต เพราะทั้ง 65 คนของพรรคพลังประชาชนหากคิดว่าโดนสัก 20 ใบก็ยังเหลืออีก 40 กว่าใบ เมื่อรวมแล้วพรรคพลังประชาชนก็ยังมีคะแนนเสียงสูงกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะถึงแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเพิ่มขึ้นไปกว่านี้ก็คงไม่ง่าย เพราะส่วนใหญ่ที่โดนคือภาคเหนือและภาคอีสาน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ค่อยมีตัวสำรองในพื้นที่ เพราะส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อแผ่นดินมากที่สุด มีพรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาบ้างประปราย ดังนั้น อาจกระจายไปตามพรรคเหล่านี้ก็ได้
เมื่อถามว่า หลังจากที่พรรคพลังประชาชนให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคมาเชิญเข้าร่วมรัฐบาลแล้วพรรคชาติไทยจะตัดสินใจอย่างไร นายบรรหารตอบว่า ในวันที่มาเชิญได้รับปากในเบื้องต้นแล้ว ยังยืนยันในคำที่ให้คำมั่นสัญญาไปแล้ว ส่วนการประกาศเป็นทางการร่วมกับพรรคเพื่อแผ่นดินอย่างไร ต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ขอหารือกับพรรคเพื่อแผ่นดินก่อน ขอดูเหตุการณ์ไปก่อน ตอนนี้ไม่ได้เร่งแล้ว เพราะเป็นช่วงต้องงดกิจกรรมทางการเมือง 3 วัน 7 วัน