ลิ่วล้อ ทรท.อัด ชวน ร้อนตัว-ปัดเปิดคดี ปรส.กลบกระแสขายชาติ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2549 15:18 น.
ลิ่วล้อ ทรท.ดาหน้าโต้ ชวน อย่ากินปูนร้อนท้อง ระบุ คำพูด วาสนา ทำต่อมความอดทนแตก ยุแฉหมดเปลือกพรรคไหนเลวบ้าง เหน็บทีน้องชายโกงแบงก์ไม่พูดถึง ยันกรณี ปรส.ไม่กลบกระแส แต่ต้องการทวงเงินที่ถูกโกงกลับมา แถมยังยกของสูงบทนิพนธ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ข่มศาล รธน.ก่อนมีคำวินิจฉัยเลือกตั้ง พรุ่งนี้ (8 พ.ค.) อ้างหน้าตาเฉย ต้องการพูดเนื่องในวันระพี
วันนี้ (7 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่อาคารพรรคไทยรักไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การเมือง
โดย นายจตุพร กล่าวว่า กรณีที่ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจ้างวานพรรคเล็กลงสมัคร ส.ส.เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ตามที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.ได้กล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ตนขอให้ พล.ต.อ.วาสนา พูดเรื่องนี้ให้หมด เพราะคนไทยยังคาใจว่า การจ้างพรรคเล็กล้มเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.มีใครบ้าง คนเลว และพรรคเลวไม่ควรอยู่ในสังคมไทย ขณะเดียวกัน คำพูดของประธาน กกต.ทำให้ต่อมอดทนของนายชวนแตก จนต้องพูดว่าเป็นวิธีสกปรกของรัฐบาลนั้น นายชวน ในฐานะผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ควรตั้งสติและเรียก นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ มาสอบถามรายละเอียดการจ้างพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า เพราะเรื่องนี้เกิดใน จ.ตรัง ซึ่งมีอดีตผู้ช่วย ส.ส.ของนายสาทิตย์ เกี่ยวข้องกับการจ้างวานการลงสมัคร ฉะนั้น นายชวน ควรสอบถามนายสาทิตย์ เสียก่อน
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน นายชวน ควรสอบถาม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ในฐานะกล่องดวงใจของนายชวน มาให้ข้อมูลการว่าจ้างพรรคเล็กด้วย ตนคิดว่าพรรคที่ใช้วิธีสกปรกที่สุด คือ พรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ นายชวน จะหาผงซักฟอกที่ใดไปชะล้างความสกปรกทั้งกายและใจของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนกรณีชิปปิ้งหมูที่นายชวนระบุนั้น พรรคไทยรักไทย ก็อยากรู้ว่าใครจ้างและปิดปากชิปปิ้งหมู
นายจตุพร กล่าวว่า นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่ตน นายณัฐวุฒิ และนายวีระ มุสิกพงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ไปยื่นข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษให้สอบสวนการขายทรัพย์สินของ ปรส.เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ซึ่ง นายชวน บอกว่า นายวีระ เป็นมือปืนรับจ้างนั้น นายวีระได้ฝากตนไปบอกนายชวน ว่า ยอมรับว่า เป็นมือปืนรับจ้างจริง แต่ได้รับจ้างจากประชาชนเพื่อทวงเงิน 6 แสนล้านบาท ที่ถูกโกง อย่าคิดว่าเมืองไทยมีคนดีแค่คนที่เป็นพวกของนายชวน ฉะนั้น อย่ากินปูนร้อนท้อง เพราะกรณีที่น้องชายของนายชวนโกงเงินธนาคารกสิกรไทยหลายร้อยล้านบาท และได้หลบหนีจนหมดอายุความ นายชวนไม่เคยแสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้โดยเลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้มาตลอด ตนขอให้นายชวนสร้างมาตรฐานที่เป็นตัวอย่างให้สังคมด้วย
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ส่วนการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 8 พ.ค.นี้นั้น เชื่อว่า ทุกฝ่ายในสังคมกำลังรอคำตัดสิน พรรคพร้อมรับทุกอย่าง แม้จะเกิดการเลือกตั้งใหม่ พรรคก็พร้อมโดยไม่คิดบอยคอตเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ ตนดีใจที่วันนี้พรรคชาติไทยเลิกเป็นโรคความจำเสื่อมแล้ว หลังจากการอภิปราย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย แต่ที่ผ่านมาพรรคชาติไทยร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด อนึ่ง วันนี้เป็นวันระพี ตนขอฝากบทนิพนธ์ของกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ในฐานะพระบิดากฎหมายไทยว่า เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าดอก แต่อย่าออกนอกทางไปให้เสียผล เอ็งอย่ากินสินบาทคาดสินบท เรามันชนชั้นปัญญาตุลาการ
ส่วน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การยื่นข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษให้สอบสวนกรณี ปรส.นั้นไม่ได้เป็นการสร้างหรือกลบกระแสใดๆ แต่พวกตนมุ่งหวังการสร้างบรรทัดฐานการเมือง เพราะการทุจริตในกรณีดังกล่าวนั้นควรมีการรวบรวมหลักฐาน และส่งให้ศาลค้นหาข้อเท็จจริงและเปิดเผยให้ประชาชนรับรู้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ดีกว่าการเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นดั่งที่พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการมาตลอด ส่วนคำพูดของนายชวนที่บอกว่าพวกตนเป็นมือปืนรับจ้างนั้น ยอมรับว่า เป็นจริง แต่ประชาชนเป็นผู้ว่าจ้างเพื่อค้นหามือเปิดรับจ็อบ ยืนยันจะค้นหาเงินที่หายไปมาให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเพิ่งดำเนินการเรื่องนี้ในช่วงนี้ เพราะมันผ่านมานานแล้ว นายจตุพร กล่าวว่า มันเป็นความเสียหายของประชาชน ไม่ว่าจะดำเนินการในช่วงใดหากยังไม่ได้รีบการแก้ไข แม้จะเก่าแต่จำเลยยังไม่ถูกดำเนินคดี จึงถือว่าเป็นเรื่องใหม่ ไม่เว้นหน้าตาของใครและพรรคทั้งนั้น กรณี ปรส.นั้นคนไทยเจ็บช้ำ ทั้งๆ ที่วันนั้นหากรัฐบาลชุดนั้นขายสินทรัพย์ให้คนไทย หลายคนคงไม่สิ้นเนื้อประดาตัวเหมือนกับวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคไทยรักไทย ได้เรียก นายเนวิน ชิดชอบ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรค เข้าพบและหารือสถานการณ์การเมืองที่อาคารพรรคไทยรักไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยทั้งสามคนไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ