นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์มติชนว่า
มีมือที่มองไม่เห็นจะช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาลจนสำเร็จว่า ความจริงคำว่ามือที่มองไม่เห็นไม่ใช่คำพูดของตน แต่เป็นคำพูดของนักข่าวมติชนที่มาถาม การจัดตั้งรัฐบาลบอกแล้วว่ามันมีหลายปัจจัยทั้งที่มีความชัดเจนและไม่มีความชัดเจน ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน ปัจจัยที่ชัดเจนคือเรื่องจำนวนที่นั่ง ส.ส. ส่วนปัจจัยที่เห็นได้ไม่ชัดเจนหรือมือที่มองไม่เห็น ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เป็นไปโดยธรรมชาติของตัวมัน เมื่อถามว่าเรื่องนี้ไปสอดคล้องทำให้เกิดความเข้าใจว่ามีผู้มีอำนาจนอกระบบไปกดดันให้ กกต. ตั้งเป้าแจกใบแดงให้พรรคพลังประชาชน นายธีรภัทร์ตอบว่า อย่าไปวิเคราะห์ผิด มือที่มองไม่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมที่พูดได้ คือมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนมือที่มองไม่เห็นที่เป็นนามธรรม อาจจะหมายถึงพระหัตถ์ของพระสยามเทวาธิราช ที่จะคุ้มครองประเทศไทย ให้ได้คนที่ดีมาปกครองบ้านเมือง ใครที่คิดไม่ดีมาปกครองก็จะอยู่ได้ไม่นาน
ธีรภัทร เชียร์ ทักษิณ ให้กลับไทยมาสู้คดี
เมื่อถามว่า ตรงนี้จะยิ่งไปสอดคล้องกับการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศว่า กกต.จะแจกใบแดงให้พลังประชาชนมากถึง 30 ใบ
นายธีรภัทร์ตอบว่า ไม่ทราบ เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่จะพิจารณา ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย อึดอัดใจเตรียมจะลาออกจาก กกต. ถือเป็นเรื่องของ กกต.แต่ละท่าน และก็ยังเหลือ กกต.อีก 4 คน คงไม่กระทบต่อความเชื่อมั่น และการทำงานของ กกต.ที่จะพิจารณาไปตามกลไกและตามพยานหลักฐาน โดยคณะอนุกรรมการตรวจสอบพยานหลักฐานส่งมายังคณะกรรมการ ต้องไว้ใจและเชื่อใจท่าน แต่ใครที่โกงหรือทุจริตการเลือกตั้งก็ต้องได้รับผลตามที่ตัวเองทำไว้ จำนวนใบเหลืองใบแดงที่จะออกมา อาจจะส่งผลกระทบต่อเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล เพราะจะทำให้ตัวเลข ส.ส.ของแต่ละพรรคเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าทาง คมช.หรือคณะปฏิวัติรัฐประหารไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกดดัน กกต.
นายธีรภัทร์ตอบว่า ไม่มี ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเช่นนี้ก็น่าจะเป็นที่ยอมรับในความถูกต้องในระดับหนึ่งอยู่แล้ว และเป็นตัวเลขที่เห็นได้ชัดเจนว่าประชาชนเขาตัดสินใจอย่างไร เพราะฉะนั้นคงไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องปัจจัยอื่น ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของระบอบประชาธิปไตยต่อไป แต่คนที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลในช่วงนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะสถานการณ์ขณะนี้มีปัญหาที่สั่งสมมานาน ต้องมาแก้อีกมาก ใครก่ออะไรไว้ก็ต้องกลับมาแก้ เช่น เรื่องผลกระทบต่อประชาชนจากสนามบินสุวรรณภูมิ และปัจจุบันมีระบบตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญมากมาย
สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศไทยช่วงเดือน เม.ย. นั้น ก็เป็นเรื่องที่ดี
ท่านจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้ ท่านก็เป็นคนไทย ควรจะกลับมาต่อสู้คดีไปตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่กลับมาเคลียร์ ปัญหาต่างๆก็จะคาราคาซังอยู่ และบ้านเมืองของเราก็สงบสุขไม่ได้มีปัญหาการเมืองที่รุนแรงเหมือนประเทศอื่น จึงไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ถ้าท่านกลับมาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา ก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย