นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการ เมือง กล่าวว่า
การแจกใบแดงให้ผู้สมัครพรรคพลังประชาชนทั้ง 3 ใบ ไม่ใช่สำนวนของสันติบาลตามที่พรรคพลังประชาชนกล่าวอ้าง แต่เป็นสำนวนที่กกต.บุรีรัมย์ลงพื้นที่เก็บข้อมูล ซึ่งวันนี้กกต.จะส่งคำวินิจฉัยสำนวนใบแดงว่าที่ส.ส.พรรคพลังประชาชน เขต 1 บุรีรัมย์ ทั้ง 3 คน คือนายประกิจ พลเดช นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน และนายรุ่งโรจน์ ทองศรี ให้กฤษฎีกาพิจารณาทบทวน เป็นเวลา 5 วัน จากนั้นจึงส่งกลับให้กกต. พิจารณาประกาศผลอีกครั้ง
นางสดศรี กล่าวว่า กกต.ไม่อยากได้อำนาจการให้ใบเหลืองใบแดง
ตอนที่ตนเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเคยเสนอให้ตั้งศาลเลือกตั้งขึ้นมา เพื่อให้พิจารณาใบเหลืองใบแดงเท่านั้น ส่วนกกต. ก็ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่ และไม่อยากให้ภาระหน้าที่การให้ใบเหลืองใบแดงไปอยู่ที่ศาลฎีกาเช่นกันเพราะจะทำให้ศาลฎีกาลำบาก ส่วนตัวก็รู้จักแกนนำของพลังประชาชนหลายคนจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ไปกลั่นแกล้งพลังประชาชน
สดศรียันแจกแดงกกต.จังหวัดชงเอง
นางสดศรี กล่าวว่า การทำหน้าที่ของกกต.ช่วงนี้มีการเมืองเข้ามากดดันมาก
มีการกล่าวหา ด่าว่าและโจมตีผ่านสื่อทางหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรละเมิดกฎหมาย ตนกำลังพิจารณาว่าหากถูกโจมตีมากๆ แล้วกกต.ทั้ง 5 คนลาออกหมด เว้นวรรคการทำงานจะส่งผลให้ไม่มีการประกาศรับรอง ส.ส.และทุกอย่างหยุดนิ่งหมด ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ อยากถามว่าต้องการเช่นนี้ใช่หรือไม่
ขณะนี้กลายเป็นว่าเราต่อสู้กับพรรคพลังประชาชน บางคนถึงขนาดพูดว่ากกต. 4 คน ออกใบเหลืองใบแดงเป็นคนผิดเหมือนอาชญากร
ถือเป็นอันตรายต่อการทำหน้าที่กกต. ทั้งที่พิจารณาตามพยานหลักฐานและคำตัดสินของกกต.ช่วงนี้ถือเป็นที่ยุติ พรรคพลังประชาชนหรือใครที่สงสัยการทำหน้าที่ของกกต. 4 คนว่าไม่ถูกต้องก็ควรยื่นเรื่องฟ้องศาลฎีกาในช่วงนี้ได้ทันที เพื่อให้ศาลสั่งระงับการทำหน้าที่ของกกต.ชั่วคราว ไม่ใช่มาด่ากกต.ผ่านสื่อ