พลังบริสุทธิ์ ไม่ท้อ ขอสู้คน ตระบัดสัตย์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2549 13:56 น.
กรณี ทักษิณ ชินวัตร ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร แทนที่จะลาออก ตามคำเรียกร้องของ กลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ทักษิณ ชินวัตร ประกาศอยู่เสมอว่าจะไม่มีวันลาออก หรือ หากจะให้ยุบสภาหรือลาออกนั้นให้รอ ชาติหน้าตอนสายๆ
อีกทั้งการยุบสภาฯ ยังเป็นการประกาศหลังจาก องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ออกแถลงการณ์ว่าการล่ารายชื่อตรวจสอบ ถอดถอน ทักษิณ ชินวัตรได้เกิน 50,000 รายชื่อแล้ว ดังนั้นการประกาศยุบสภาฯ แทนที่จะลาออก ย่อมทำให้ผู้คนในสังคมที่รู้เท่าทันอดคิดไม่ได้ว่าการยุบสภาทำเพื่อตัวเอง หาใช่การทำเพื่อประเทศชาติ - ประชาชนอย่างที่กล่าวอ้าง....
ช่อฟ้า มั่นทอง แกนนำพรรคสัจธรรม มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่าการที่ทักษิณชิงยุบสภายิ่งทำให้เห็นว่าทำษิณ ไม่มีคุณความดีติดตัวอยู่เลย
ที่จริงแล้วการเรียกร้องของเราหรือผู้ชุมนุม ไม่ใช่ให้ยุบสภา เราเรียกร้องให้เขาลาออก เพื่อที่จะให้องค์กรต่างๆ มีอิสระในการที่จะตรวจสอบตัวทักษิณได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพล - อำนาจที่เขามี แต่การที่ทักษิณ ชิงยุบสภา ก็ทำให้เราเห็นภาพของเขาชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า เขาไม่เหลือความดีติดตัวเขาเลย ตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาเป็นนายกแล้ว ก็คือเรื่องการซุกหุ้น จนถึงการแก้ไขกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องอีก
ส่วนกรณีใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้เร็วกว่ากำหนดนั้น ช่อฟ้ากล่าวว่า นั่นเป็นเงินของประเทศที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่คนอื่นๆ เขาไม่กล้าที่จะโยกจากกระเป๋าซ้าย มากระเป๋าขวา
ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟนั่นก็เป็นเงินของประเทศ เงินที่มาจากภาษีอากรของเรา ทองคำที่เราถวายให้หลวงตามหาบัวท่าน นำไปมอบให้รัฐบาลเพื่อนำไปใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ ส่วนจากนี้ไปเราจะพยายามหาทางสร้างเครือข่ายขึ้นมา เพื่อให้ความรู้กับประชาชนว่าคนๆ นี้ทำอะไรไว้บ้าง และเราจะหาทางรณรงค์ไม่ให้ประชาชนเลือกผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยกลับมาอีก
ในขณะที่ดอกไม้เหล็กรุ่นเล็กในกลุ่มพันธมิตรอย่าง กชวรรณ ชัยบุตร เลขาธิการสมาพันธ์นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ระบุทักษิณชิงยุบสภาเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อประชาชน
คิดว่าการยุบสภาฯ ของท่านเป็นทางออกเพื่อหนีปัญหาที่ท่านต้องรับผิดชอบส่วนหนึ่ง และการยุบสภาฯ เป็นทางออกของท่าน ไม่ใช่ทางออกของประชาชน และเป็นการเลือกที่จะนำระบบรัฐสภามาสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองอีกครั้ง และ สนนท.จะยังคงเข้าร่วมการชุมนุมต่อไป
ส่วนกิจกรรมล่ารายชื่อตรวจสอบ ถอดถอนทักษิณ ชินวัตร ของ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ซึ่งได้รายชื่อมามากกว่า 60,000 รายชื่อนั้น สุรพงษ์ บุญเดชารักษ์ นายก อมธ.2549 ยืนยันว่า อมธ. จะยังคงเดินหน้าล่ารายชื่อต่อไป
ถึงแม้ว่าในขณะนี้จะได้รายชื่อครบ 50,000 รายชื่อแล้ว แต่ทาง อมธ. ยังดำเนินการล่ารายชื่อต่อ เพราะ อาจจะมีผู้ลงชื่อบางคนมีคุณสมบัติไม่ครบ และทางอมธ. ต้องการให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้รายชื่อที่ได้มาทั้งหมดนั้นทีมกฎหมายของอมธ. โดย จักรกฤษณ์ ด่านเฉลิมนนท์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้แจงว่า การล่ารายชื่อไม่เพียงแค่ถอดถอน แต่ยังต้องการให้มีการตรวจสอบการบริหารงานด้วย ดังนั้น อมธ.จะนำรายชื่อยื่นให้กับวุฒิสภาภายในวันที่ 7 มี.ค.นี้ ซึ่งต้องดูประเด็น เรื่องการทำสำนวนเป็นหลัก เนื่องจากหากสำนวนไม่มีเหตุ มีผลเพียงพอ ก็อาจจะถูกวุฒิสภาตีกลับ และอมธ.มีเวลาถึง 7 ส.ค. ซึ่งจะครบ 180 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
อย่างไรก็ตาม การยื่นสำนวนให้วุฒิสภามีข้อกำหนดเส้นตายว่าต้องส่งก่อนวันที่ 24 มี.ค. เนื่องจากวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะหมดวาระลง
ส่วนความรู้สึกของนักศึกษาอาสาสมัคร ที่เข้าร่วมเป็นเจ้าหน้าที่รับลงรายชื่อ อย่าง พิม - ประไพพิมพ์ ซึ่งร่วมปฎิบัติงานมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรก พิมกล่าวว่า เมื่อรู้ข่าวทักษิณประกาศยุบสภาฯ เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งเป็นหลังจากที่ อมธ.ประกาศการล่าชื่อทะลุ 50,000 รายชื่อแล้ว
เมื่อรู้ข่าวการประกาศยุบสภาฯ เราก็มีการพูดคุยกัน และลงมติกันในเรื่องนี้ ซึ่งเราเข้าใจ ว่า ประชาชนคงคิดว่าเรียบร้อยแล้ว คงจะโล่งใจกัน และบางคนอาจคิดว่า การล่ารายชื่อเพื่อถอดถอน อาจจะไม่จำเป็นแล้ว แต่เราคิดว่ามันจำเป็น มันต้องอธิบายว่า มันจะต้องมีเพื่อยื่นไป แล้วให้ ปปช. ตรวจสอบ เพราะ ถ้ามีความผิด ก็จะถูกจำกัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
เราคิดว่าการยุบสภาฯ ครั้งนี้ ในความคิดของรัฐบาล คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด สำหรับรัฐบาลแล้ว แต่ความเป็นจริง ความคิดของท่านไม่ถูกต้อง จะมาคิดว่าประชาชน มีสิทธิ์แต่เลือกเข้ามาอยู่อย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีสิทธิ์ถอดถอนได้ เรียกร้องเพื่อตรวจสอบได้ แต่การตรวจสอบโดยปปช. แต่จิตสำนึกของปปช.ต้องโปร่งใส เราเลยต้องหาทางชี้แจงอย่างชัดเจนว่า 50,000 รายชื่อยังมีผลอยู่ สามารถเรียกร้องตรวจสอบทางกฎหมายได้
มันไม่แฟร์ สำหรับพรรคอื่นนะ การออกมายุบสภาอย่างนี้ เป็นเพราะมันมีการประเมินสถานการณ์แล้ว คือก่อนๆ นี้ การชุมนุมมันไม่รวมตัวกันมาก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วไง การรวมตัวของประชาชนมีมากขึ้นกว่าเดิม แล้วรัฐเห็นก็เลยออกมาแก้ไขด้วยวิธีนื้ มันไม่แฟร์
หากไม่ปลดล๊อค สส.ออก วงจรการบริหารงานของรัฐ แบบเผด็จการจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้น การล่ารายชื่อถอดถอนยังคงมีอยู่ต่อไป เพื่อดำเนินตามกระบวนของกฎหมาย เพราะสิ่งที่เราต้องการ คือ เลือกเขามา หากทำงานแล้วเมื่อเขาทำงานแบบไม่มีจริยะธรรม เราก็มิสิทธิ์ถอดถอนเช่นกัน
ทางด้านคุณ น้า (นามสมมติ) ซึ่งเป็นประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็น และชูป้ายต่อต้านทักษิณที่บริเวณลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ให้ทัศนะต่อการยุบสภาของทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นอาการปอดแหก
ที่ออกมาทำอย่างนี้ ก็ไม่ได้อยากเด่น อยากดังอะไรเลย และก็ไม่ได้ออกมาเพราะปรากฏการณ์สนธิ ด้วย แต่สาเหตุที่ออกมา เพราะ วันนั้นพี่ทำงานเสร็จแล้วกลับบ้าน เปิดทีวีดูข่าว แล้วเป็นวันที่ทักษิณ พูดว่าถ้าจะออก ต้องให้ในหลวงมากระซิบข้างหู พอพี่ได้ยินดังนั้นแล้ว ร้องโหเลย คิดว่ามันใช้ไม่ได้ แม้วไม่รู้ที่ต่ำที่สูงได้อย่างไร
สื่อมวลชนเองก็เช่นกัน เห็นความเอนเอียงได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะหัวเขียวหน้า 4 เมื่อ สามสี่วันก่อนนี้ เขียนให้พันธมิตรฯ แตกแยก แย่งชิงในการเข้าเป็นหัวหน้า พี่เสียใจกับจรรยาบรรณของสื่อจริงๆ โดยเฉพาะ "เขา" ที่คุยข่าวหน้าจอมากๆ ก็มีอิทธิพลให้คนเชื่อได้ เมื่อก่อนเขากล้านะ แต่พอมาเจอเรื่องนี้คงกลัวชะตาจะขาดเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ แกมรณะไปเรียบร้อยแล้วสำหรับจรรยาบรรณ
พี่มีอีกเรื่องที่ต้องออกมาตรงนี้ คือเรื่องของยาเสพติด ที่เกาะพงันยังคงมีอยู่จริงๆ ไม่ได้ไปปราบอะไรแต่อย่างใด แต่ที่ออกมาปาวๆ ว่าปราบนู่นปราบนี่ มันเป็นการกระตุ้นให้ราคาสูงกว่าเดิมต่างหาก แล้วมีอีกหลายเรื่อง เมื่อมันเป็นอย่างนี้ พี่คิดว่าเราควรออกมาแสดงออกดีกว่า นั่งเฉยเห็นความวอดวาย พี่ก็ออกมาทำแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่น้องธรรมศาสตร์เขาเริ่มต้นถอดถอนกัน
สุดท้ายที่คนบันเทิงอย่าง ทราย - วรรณพร ฉิมบรรจง ที่เข้าร่วมชุมนุมขับไล่ทักษิณ อย่างไม่หวั่น นั้นเธอยืนยันว่าจะอยู่ไปจนกว่าจะชนะ
ทรายไม่ได้มาในฐานะนักแสดง ไม่ได้มาเพราะเป็นดารา ทรายคือประชาชนคนหนึ่งที่มาแสดงออก ร่วมกับภาคประชาชน เพราะ ตั้งแต่เรียนแล้ว ทรายร่วมกิจกรรมทางการเมืองมาตลอด และครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรายมาร่วม อีกอย่างทรายรู้จักกับ กลุ่มศิลปินเพื่อประชาธิปไตย ที่พวกเขาช่วยทำเวที ทำป้ายต่างๆ อยู่แทบทุกงาน ทรายก็มาช่วยตลอด ทรายอยากเป็นส่วนหนึ่งในผู้ประกาศเจตนารมณ์กู้ชาติ เพื่อขับไล่คนที่เป็นปัญหาของประเทศ เพียงคนเดียวออกไป เพื่อร่วมกันตัดปัญหา
ถึงแม้จะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อ ทรายก็คิดว่าจะอยู่ยาวค่ะ งานนี้ เพราะ จะต้องสู้เพื่อประเทศ ไม่ห่วงหรอกค่ะ ภาพพจน์ หรือกลัวอะไร มีแต่คนถามทรายอย่างนี้ แต่ทรายคิดว่า เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องกลัว อาจจะมีผลกระทบบ้าง แต่ยังไงทรายก็ยืนยันจะทำเพื่อประชาธิปไตย