ปาหินรถพ่วง 18 ล้อโดนเมียคนขับหวิดเข้าตา

วัยรุ่นอยุธยาเหิมไม่เลิก ซิ่ง จยย.ขว้างหินใส่รถพ่วง 18 ล้อกระจกหน้ารถจนแตก ก่อนหินกระแทกใบหน้าเมียคนขับเกือบโดนตา

เผยก่อนเกิดเหตุเพิ่งฟังวิทยุข่าวเหตุปาหินในกรุงเทพฯ พูดไม่ทันจบคำว่าใครโดนซวยจริงๆ สุดท้ายโดนจนได้ ตำรวจระดมกำลังไล่ล่าแก๊งปาหิน ปาหินยังอาละวาดไม่เลิก ล่าสุดปาหินรถพ่วง 18 ล้อ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 28 ธันวาคม พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ถนอมสุข สว.เวร สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุยา รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกถูกวัยรุ่นใช้ก้อนหินปาใส่ได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รบบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายนครหลวง-ท่าเรือ หมู่ 4 ต.บางระกำ อ.นครหลวง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมด้วย พ.ต.อ.พหล เหรียญทอง ผกก.สภ.นครหลวง พ.ต.ท.จักราวุธ คล้ายนิล รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.รามณรงค์ บุญเกิด สว.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวน รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 81-8707 สระบุรี จอดอยู่ริมถนนหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช

ต.บ่อโพง อ.นครหลวง ในสภาพเปิดไฟฉุกเฉิน กระจกด้านหน้าแตกทั้งบาน บนเบาะที่นั่งคนขับพบก้อนหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว ลักษณะคล้ายหินคอนกรีตตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นางลัดดา บุญเลี้ยง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/2 หมู่ 8 ต.เจริญธรรม อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ได้รับบาดเจ็บที่หางคิ้วขวาเป็นแผลลึกเหนือขอบตา เย็บ 5 เข็ม

นายชาญ บุญเลี้ยง อายุ 54 ปี สามีของนางลัดดา คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุ ให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุไปรับถ่านหินลิกไนต์จากท่าแร่ ต.ปากจั่น อ.นครหลวง เพื่อนำไปส่งให้โรงงานปูนซีเมนต์ อ.นครหลวง ขณะขับรถมาตามเส้นทางสายนครหลวง-ท่าเรือ บริเวณหน้าวัดเรือแข่ง มีรถจักรยานยนต์ซึ่งมีคนขับขี่และพวกเป็นวัยรุ่นขี่สวนทางไปหลายคัน จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งวิ่งสวนเข้ามาช่องทางเดียวกับตน แล้วเบี่ยงออกไป โดยคนซ้อนท้ายไม่ได้สวมหมวกกันน็อค แล้วขว้างก้อนหินเข้ามาหน้ารถ ถูกกลางกระจกหน้าแตกทันที จึงพยายามขับรถหนี เมื่อหันไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ด้านข้างก็พบว่ามีเลือดเต็มหน้า จึงหาทางกลับรถแล้วนำภรรยาไปส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งขณะขับรถบรรทุกมุ่งหน้าไปส่งภรรยานั้น ยังพบกับกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เกาะกลุ่มกันอยู่ข้างหน้า เข้าใจว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหต

ส่วนนางลัดดา หลังแพทย์ทำแผลแล้ว ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.นครหลวง ทันที พร้อมเปิดเผยว่า

ขณะนั่งอยู่ข้างสามี มองเห็นวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมาแล้วทำท่าเงื้อมือ แต่ตนไม่ทันระวังว่าจะขว้างก้อนหินเข้ามาในรถ กระทั่งได้ยินเสียงกระจกแตกเสียงดัง จึงรู้สึกเจ็บที่ใบหน้าและมีเลือดไหลอาบ สามีจึงรีบขับรถมาส่งที่โรงพยาบาล "ก่อนหน้าจะเกิดเหตุฉันยังเปิดวิทยุในรถฟัง ทราบว่ามีคนร้ายใช้หินปารถในกรุงเทพฯ ฉันยังบ่นกับสามีว่า ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็เกิดเหตุบ่อย จนไม่อยากจะขับรถมาตามท้องถนน สามียังบอกด้วยว่า หากใครถูกปาอย่างนั้นคงซวยจริงๆ ไม่คิดว่าจะมาโดนกับตัวเอง" นางลัดดา กล่าว

พ.ต.อ.พหล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานกับชุดสืบสวนของจังหวัดแล้ว

โดยมุ่งไปยังกลุ่มวัยรุ่นในเขต อ.ท่าเรือ และ อ.นครหลวง ที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้นำหินไปเปรียบเทียบกับจุดที่เกิดเหตุว่าเป็นหินบริเวณดังกล่าวหรือไม่ เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นหินที่อยู่ตามท่าแร่ใน อ.นครหลวง และคาดว่าเกิดจากความคึกคะนองของวัยรุ่นมากกว่า อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ระดมกำลังออกสืบสวนหาข่าว คาดว่าจะสามารถได้ตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุในเร็วๆ นี้