ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ธันวาคม นายศิริโชค สิริวรรณภา รองโฆษกพรรคชาติไทย กล่าวที่พรรคชาติไทย ถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทยออกมาต่อว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องการต่อรองตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงนายบรรหารที่ถูกกระแสกดดันในการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะลงด้านไหนคงมีทั้งเสียงชื่นชมและเสียงตำหนิไม่แพ้กัน
'วันนี้ผมคิดว่า การต่อรองทางการเมืองนั้นเป็นแค่เพียงข่าวปล่อยทางการเมือง ซึ่งจริงๆ แล้วประเทศเรายังติดปัญหาความีคิดเห็นที่แตกแยกกันเป็น2 ฝ่าย วันนี้เราควรจับมือทุกๆพรรคการเมืองและร่วมลงสัตยาบันกันก่อนว่า หากใครได้เป็นรัฐบาลทุกพรรคจะเป็นสัญญาประชาคมที่จะนับหนึ่งเพื่อชาติ และจะไม่สร้างความขัดแย้งหรือเช็คบิลบุคคลหนึ่งบุคคลใดให้เกิดความแตกแยกในความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ทุกๆ ฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน แก้ปัญหาวิกฤตชาติเพราะประเทศเราบอบช้ำมามากพอแล้ว' นายศิริโชค กล่าว
นอกจากนี้ นายศิริโชคยังกล่าวเรียกร้องให้นายชูวิทย์ ทบทวนบทบาทของตนเอง ในการวิพากษ์วิจารณ์ที่ก้าวร้าว จาบจ้วงนายบรรหาร และคนในพรรคอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า นายชูวิทย์ จะสามารถวิจารณ์ได้ แต่ก็ควรมีมารยาทและจิตสำนึกอยู่บ้าง เพราะเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)ในนามของพรรค ดังนั้น ความกตัญญูควรอยู่ในใจบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต) ได้มีหนังสือตอบรับ เห็นชอบให้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคชาติไทยตามที่ได้แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองไว้ ว่า นายชูวิทย์ ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว และได้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการรบริหารบางตำแหน่ง เช่น น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็น โฆษกพรรคและเป็นรองเลขาธิการพรรค รวมทั้งน.ส.ปอรรัชม์ ยอดเณร รองโฆษกพรรคเป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นต้น