พีเน็ตจวกนักการเมืองยับ

แถลงข่าว  การประเมินผลการจัดการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. พร้อมแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะต่อการให้ใบเหลือง ใบแดงของ กกต. โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร   เลขานุการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) กล่าวว่า พีเน็ตจะประเมินการเลือกตั้งครั้ง นี้ 3 ประเด็นคือ ประเด็นที่ 1 ประชาชน ซึ่ง ประชาชนมีความตื่นตัวในการออกมาเลือกตั้งมากเป็นประวัติการณ์และมีการใช้สิทธิเลือกตั้งมีการพัฒนาในทางที่ดี คือตัดสินใจจากนโยบายและผล งานของพรรคที่ผ่านมามากขึ้นกว่าในอดีต ส่วนเรื่องบัตรเสียนั้นเนื่องจาก กกต. ไม่สามารถทำความเข้าใจกับประชาชนได้ดีพอ ซึ่งถ้าเป็นการให้คะแนนก็ต้องให้ A เปรียบเทียบกับการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ถ้าเป็นมาตรฐานการเลือกตั้งทั่วไปก็จะให้ A- เนื่องจากว่ายังมีหลายส่วนที่ยังสะท้อนถึงความไม่ ตื่นตัวเท่าที่ควร
 
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 ประเมินคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งพีเน็ตก็ต้องขอชื่นชม กกต. ชุดนี้ที่สามารถจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างปกติ ส่วนเรื่องการให้ใบแดงก่อนการเลือกตั้งน่าจะทำได้แต่ก็ทำไม่ได้ ซึ่งเรามองว่ายังมีข้อขัดข้องและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เรามองว่า กกต. ชุดนี้สร้างความเคลือบแคลงในด้านความเป็นกลางแก่ประชาชน เช่น เรื่องเอกสารลับ คมช. คลิปวิดีโอที่มีนายทหารสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเลือกพรรคการเมืองหนึ่ง ถ้าเปรียบกับ กกต. ชุดที่แล้วเราให้คะแนนดีกว่า โดยให้ B แต่ถ้าเทียบกับมาตรฐานสากลเราให้ B- ซึ่งต้องมีการปรับปรุงหลายกรณี
 
ส่วนประเด็นที่ 3 นักการเมืองและพรรคการเมืองซึ่งเรามองว่าส่วนนี้ยังไม่มีการพัฒนา เพราะว่าการหาเสียงยังเป็นรูปแบบเดิม ๆ นอกจากนี้พฤติกรรมบางอย่างก็น่ารังเกียจคือต่อรองในการเข้าร่วมรัฐบาลโดยไม่นึกถึงอุดมการณ์ ซึ่งเราประเมินว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองถือว่าสอบตก คือ C แต่ถ้าเป็นการมองถึงสิ่งที่ควรจะเป็นในปัจจุบันทุกอย่างพัฒนาและก้าวหน้าไปแล้วเราต้องให้คะแนนนักการเมือง F
 
“ต้องขอชื่นชม กกต. ในการให้ใบเหลือง ใบแดงและก็ขอให้พิจารณาอย่างตรงไปตรงมาและไม่มุ่งต่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งโดยมุ่งไป  ที่คนกระทำผิด มิเช่นนั้นจะเข้าข่ายฆ่าโจรกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้โจรอีกกลุ่มหนึ่งขึ้นมาครองบ้านเมืองและชี้แจงกรณีการให้ใบเหลืองใบแดงแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เป็น กลางเข้าตรวจสอบข้อมูลเพื่อเป็นการยืนยันความโปร่งใสของ กกต.” นายสมชัยกล่าว.