อภิสิทธิ์ แขวะ พปช.พูดเองเออเอง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน

แสดงความมั่นใจรวบรวมเสียงพรรคเล็กจัดตั้งรัฐบาลได้ 280 เสียงว่า รู้สึกแปลกใจตัวเลขที่นับรวมเข้าไป บางพรรคออกมายืนยันว่ายังไม่ได้ตอบรับความจริงแล้วอยากให้ว่ากันตรงไปตรงมา โดยพรรคพลังประชาชนเดินหน้าดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลไป แต่ไม่ควรที่จะออกข่าวในลักษณะที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชาชนระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนดึงทุกพรรคไปเป็นรัฐบาลได้ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีปัญหา ว่ากันไปตามระบบ แต่ ขณะนี้ก็เร็วเกินไปที่จะพูดว่าจะเป็นกี่พรรค เพราะอีก 5 พรรคยังไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจน ดังนั้น พรรคพลังประชาชนไม่ต้องรีบไปสรุปแทน และขอให้พูดความจริงว่ารวบรวมเสียงได้หรือไม่ได้ ควรพูดให้ตรงกับพรรคที่ไปอ้างอิง 

ต่อข้อถามว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ระบุว่าถ้าพรรคพลังประชาชนไม่ สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นานาชาติจะยิ่งจับตาว่าเกิดอะไรขึ้น น

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า นายยงยุทธคงไม่ทราบว่าในต่างประเทศการจัดตั้งรัฐบาลผสมในระบบรัฐสภามีการยึดเอาเกณฑ์ว่าใครรวบรวมที่นั่งได้เกินครึ่งเป็นหลักจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นไม่มีปัญหาที่จะไปอธิบายกับชาวโลก และวันนี้เราก็ให้เกียรติพรรคพลังประชาชนดำเนินการต่อไปก่อน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบ เมื่อถามว่า กรอบเวลาที่พรรคพลังประชาชนกำหนดไว้ช้าไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ขอพูดตรงๆว่าไม่ค่อยปกติที่พรรคการเมืองที่ได้เสียง 233 เสียง แต่กลับใช้เวลานานในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ทราบว่าทำไมพรรคพลังประชาชนถึงจะต้องเลือกวันที่ 3 ม.ค. 2551 

เมื่อถามว่า มีบางพรรคขอคุมกระทรวงสำคัญ หากพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ตอบว่า

วันนี้เราไม่อยู่ในจุดที่จะไปพูดคุยกับใครในเรื่องกระทรวง เพราะเป็นเรื่องของพรรคพลังประชาชนดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ สามารถตกลงเรื่องแบ่งกระทรวงกับพรรคชาติไทยได้ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า กระทรวงศึกษาธิการเจรจาไม่ได้ ถ้าเป็นกระทรวงอื่นต้องมาพูดคุยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์มีกระทรวงศึกษาธิการเพียงกระทรวงเดียวที่ต้องการจะเข้าไปทำงานเพราะเมื่อเราบอกกับประชาชนว่า อยากจะเข้าไปทำงานในกระทรวงนี้ ก็ต้องถือว่าคำพูดกับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ไม่อย่างนั้นใครจะพูดอะไรก็ได้ในช่วงหาเสียง