รวมใจไทยฯแบะท่าพร้อมผสมทุกขั้วทั้งพปช.-ประชาธิปัตย์

แกนนำพรรครวมใจไทยฯ ระบุ ร่วมได้ทุกขั้วการเมืองทั้งพรรคพลังประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์

(24ธค.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และ ร.ต.ประพาส ลิมทปะพันธ์ รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงท่าทีของพรรคในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า คะแนนของพรรค ต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้มาก เนื่องจากเป็นพรรคใหม่และมีเวลาเตรียมการสั้น ทั้งนี้ ไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่ต้องยอมรับผลที่ออกมา โดยเฉพาะ ส.ส.ในระบบสัดส่วน ที่ประชาชนเลือกพรรคที่มีความนิยมสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชาชน

“การเลือกตั้งต้องมีแพ้ชนะ มีสอบได้สอบตกเป็นปกติของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพรรครวมใจไทยฯ ยังยืนยันที่จะดำเนินการทางการเมืองต่อไป ส่วนท่าทีของพรรคของเป็นอย่างไรต้องขึ้นอยู่กับพรรคใหญ่และพรรคขนาดกลาง เจรจากันก่อน เราเป็นพรรคเล็กที่ไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่จะต่อรองหรือเรียกร้องอะไรได้ ถ้าพรรคใหญ่เห็นว่า เราจะร่วมงานกันได้ก็คงประสานมา” นายประดิษฐ์ กล่าว


เลขาธิการพรรครวมใจไทยฯ กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเลือกขั้วใดก็ตาม พรรครวมใจไทยฯ ก็จะไม่สร้างปัญหา แต่ต้องแก้ปัญหาให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้

เพราะหลังการเลือกตั้ง ยิ่งเป็นที่จับตามองของประชาชน ที่ไม่อยากให้บ้านเมืองติดขัดปัญหาที่เป็นมายาวนาน “ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า เราจะอยู่กับพรรคใด ต้องรอให้พรรคใหญ่ดำเนินการไปก่อน ถ้าเห็นว่า พรรคเรามีประโยชน์อยู่บ้าง เขาก็จะเรียกไปเอง ส่วนพรรคขนาดกลางอย่างชาติไทยและเพื่อแผ่นดิน ที่ประกาศจับมือกันไปแล้วนั้น ก็ต้องรอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ ถ้าเปรียบแล้วก็เหมือนกับเรานั่งอยู่ในตู้กระจก รอว่าใครจะมาเลือกหรือไม่อย่างไร” เลขาธิการพรรค กล่าว

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีพรรคใดทาบทามให้เข้าร่วม มีเพียงพรรคพลังประชาชนที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคได้กล่าวเชิญชวนผ่านสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูผลคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเสียก่อน ส่วนกรณีที่นายเกษมสันต์ วีระกุล รองหัวหน้าพรรค เปิดเผยว่าพรรครวมใจไทยฯ ตัดสินใจจะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชนแล้วนั้น นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ต้องไปถามนายเกษมสันต์เอง


ด้าน ร.ต.ประพาส กล่าวว่า การตัดสินใจเบื้องต้นในการเข้าร่วมกับพรรคใดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับมติของผู้บริหารพรรค

ซึ่งต้องหารือกันในการกำหนดท่าทีก่อนที่จะเจรจากับพรรคอื่นต่อไป แต่ในฐานะที่เป็นพรรคเล็กจะต้องคำนึงว่า การตั้งรัฐบาลใหม่ ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนก่อน และแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้ “ขณะนี้ ผู้ใหญ่ในพรรคกำลังติดตามอยู่ว่า ตัวเลขผลคะแนนจะสรุปออกมาอย่างไร หลังจากนั้น จึงจะมอบหมายให้ผมกับเลขาธิการพรรคไปดำเนินการเจรจาต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมีพรรคใดมาขอ ผมก็อยากให้พรรครวมใจไทยฯ เป็นเจ้าสาวที่มีศักดิ์ศรีบ้าง” ร.ต.ประพาส กล่าว
 

เมื่อถามว่า กรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แสดงความไม่พอใจ หากพรรคจะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน

รวมถึงนายพิจิตต รัตตกุล หัวหน้ากลุ่มมดงาน ที่ประกาศว่า กลุ่มมดงานจะลาออกจากพรรคทันที ร.ต.ประพาส กล่าวว่า พรรคก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นสถาบันในระบอบประชาธิปไตย หากเสียงส่วนใหญ่ของพรรคตัดสินใจอย่างไร ก็ต้องว่าตามนั้น ขณะที่ นายประดิษฐ์ กล่าวเสริมว่า หากนายพิจิตตไม่พอใจที่จะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน และประกาศว่าจะลาออกนั้น ก็ถือเป็นเหตุผลส่วนตัว ทั้งนี้ ต้องเคารพมติของกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก แต่ขณะนี้ สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดที่จะสรุปได้ และยืนยันว่า นายสมคิด ไม่ได้เข้ามามียุ่งเกี่ยวกับการบริหารจัดการภายใน รวมถึงไม่มีการชี้นำให้พรรคเข้าร่วมกับฝ่ายใด เพราะหากเข้ามายุ่งพรรคจะเกิดปัญหา เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังเพ่งเล็งอยู่


นายประดิษฐ์ ยังกล่าวปฏิเสธว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคพลังประชาชน ไม่เคยโทรศัพท์ติดต่อทาบทามมาแต่อย่างใด รวมทั้งยังไม่มีพรรคขนาดกลางติดต่อเข้ามา ซึ่งขณะนี้ขอเป็นพรรคอิสระ รอจนกว่าสถานการณ์จะเป็นไปอย่างไร เมื่อถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์จะเชิญพรรครวมใจไทยฯ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะขัดข้องหรือไม่ นายประดิษฐ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ และไม่เคยมีข้อขัดแย้งกัน ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหา แต่ขณะนี้ยังไม่การติดต่อมา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์