วอน สนธิ สั่งตั้งด่านสกัดเงินซื้อเสียง

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมชัยพร้อมด้วย พล.อ.สายหยุด เกิดผล รองประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต)

ได้นำองค์กรเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี เข้าพบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จากนั้น นายสมชัยกล่าวว่า ได้รายงานให้ พล.อ.สนธิทราบว่า มีสถานการณ์การซื้อขายเสียงเกิดขึ้นจำนวนมากทุกพื้นที่ในภาคอีสาน แม้ว่าประชาชนจะตื่นตัวให้ความร่วมมือ มาแจ้งเบาะแส แต่ยังมีปัญหาที่เจ้าหน้าที่บางคนแสดงท่าที จนทำให้ประชาชนหวาดวิตกไม่กล้าแจ้ง จึงได้แจ้ง พล.อ.สนธิเพื่อขอให้สั่งการลงไปให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับ ให้ความสะดวกต่อประชาชนที่เข้ามาแจ้งความ

นอกจากนี้ ยังได้รายงานว่า เงินก้อนใหญ่ที่จะใช้ซื้อเสียงยังไม่ออก

การแจกเงินขณะนี้ยังเป็นของผู้สมัครรายย่อยที่ไม่ใช่ตัวจริงที่เคยซื้อเสียงรายใหญ่ เชื่อว่าการซื้อเสียงอาจจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในคืนวันที่ 21-22 ธ.ค. จึงอยากให้หน่วยราชการสั่งการลงไปให้แต่ละพื้นที่ตั้งด่านสกัดรถขนเงิน และสกัดคนเอาเงินเข้าไปในหมู่บ้าน ถ้ามีการดำเนินการอย่างจริงจัง ก็เชื่อว่าคนที่ตั้งใจจะซื้อเสียงจะไม่สามารถทำได้โดยสะดวก 

ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวก่อนเป็นประธานประชุม สมช.

ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาตั้งกองบัญชาการติดตามการเลือกตั้งที่ฮ่องกงว่า ไม่น่าจะกระทบต่อการเลือกตั้งในประเทศไทย คิดว่าเป็นจิตวิทยาในการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค. มากกว่า เมื่อถามว่าคิดว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นการวางแผนเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า คิดว่าไม่มี ทาง กกต.เองได้วางแผนไว้แล้ว และฝ่ายความมั่นคงก็ได้ มองภาพด้านต่างๆไว้แล้ว ไม่น่ากังวล เมื่อถามย้ำว่าเป็นสิทธิที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะทำได้ใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวยอมรับว่า “ใช่ครับๆ เป็นสิทธิ”
 

เมื่อถามอีกว่าหลังผลการเลือกตั้งออกมาจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่

เพราะกลุ่มพันธมิตรฯขู่ว่า หากพรรคพลังประชานชนะจะออกมาเคลื่อนไหวอีก ได้มีการประสานพูดคุยกันหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ไม่ทราบ ไม่ได้พูดคุยกัน เมื่อถามอีกว่าถึงเวลาจริงๆถ้าพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง และนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯยอมรับได้ใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า “ก็ประชาชนเลือกแล้วนี่แหม...ไม่รับได้ไง”