นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า
แม้นายประแสงจะลาออกจากพรรคพลังประชาชน ก็ไม่มีผลต่อความผิดที่ได้กระทำไว้ก่อนหน้านี้ เพราะ กกต.ก็ต้องประชุมเพื่อพิจารณาว่าการกระทำของนายประแสงผิดหรือไม่ หากผิดก็ต้องดำเนินคดี พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิทางการเมืองต่อไป การลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของนายประแสง เป็นช่องโหว่ทางกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายห้ามผู้สมัครถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร แต่ผู้สมัคร ส.ส.กลับเลี่ยงที่จะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ที่มีผลทำให้สิ้นสภาพการเป็นผู้สมัคร ส.ส.ไปด้วย ดังนั้นเรื่องดังกล่าวต้องมีการพิจารณาเพื่อวางกรอบ ก.ม. ต่อไป อย่างไรก็ตาม การที่นายประแสงออกมาด่า กกต. ก็จะแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทต่อไป
นางสดศรียังกล่าวว่า เชื่อว่าหลังเลือกตั้งคงมีเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก
กกต.ต้องพิจารณาข้อกล่าวหาว่าเป็นความจริงหรือไม่ การรวมพรรคคงเป็นไปอย่างหลวมๆ เพราะไม่รู้ว่าจะถูกตัดสิทธิหรือไม่ เกิดปัญหาว่ารัฐบาลผสมในอนาคตจะไม่มีความแน่นอน เพราะระหว่างที่ศาลฎีกาจะตัดสินผู้ที่ได้รับเลือกตั้ง ก็ทำหน้าที่ในสภาไม่ได้ ถือเป็นจุดอ่อนไหว ถ้าบางคนได้เป็นรัฐมนตรีแล้วถูกร้อง ก็ยังไม่สามารถทำหน้าที่ได้เช่นกัน