นายกฯเตรียมหารือเสรีพิศุทธิ์ เอาผิดบิ๊กททท.รับสินบนสหรัฐ

“สุรยุทธ์” ระบุ

จะขอข้อมูลจากสหรัฐฯคดีสินบนผู้บริหารระดับสูงททท.ลั่นใครทำผิดพร้อมดำเนินคดี เผย เตรียมหารือ"เสรีพิศุทธิ์"วันนี้

(20ธค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย

ให้สัมภาษณ์กรณีที่เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และตำรวจสอบสวนกลางสหรัฐฯหรือเอฟบีไอจับกุมผู้บริหารฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนต์ นครลอสแองเจอลิส รัฐแคลิเฟอร์เนีย หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีร่วมกันติดสินบนผู้บริหารระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างปี 2546-2550 เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการจัดงานเทศกาลภาพยนต์นานาชาติ กรุงเทพ หรือบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล คิดเป็นเงินร่วม 60 ล้าน ว่า ทราบข่าวจากสื่อและบ่ายวันนี้ (20 ธ.ค.) จะหารือกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. คงสอบถามว่ามีการประสานงานสหรัฐฯอย่างไรบ้าง คิดว่าน่าจะมีข้อมูลที่สหรัฐฯจะสามารถส่งให้กับทางการไทยได้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า
 
เรื่องดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าฯททท.และรัฐบาลชุดที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษ์ของประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนยังไม่มีรายละเอียด ทราบเบื้องต้นเพียงว่าทางเอฟบีไอได้จับกุมคนสัญชาติสหรัฐฯ และให้คำชี้แจงว่าได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อให้มีการจัดแสดงภาพยนต์ในประเทศไทย ซึ่งการดำเนินการขั้นแรกก็ขอข้อมูลจากทางสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป

เมื่อถามว่า

จะดำเนินการจนถึงที่สุดหรือไม่เพราะข่าวออกไปทั่วโลกและกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ นายกฯกล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมายในทุกๆอย่าง

ก่อนหน้านั้น กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า
 
นายเจอราล์ด กรีน นักธุรกิจชาวอเมริกันในนครลอส แองเจลีส วัย 75 ปี กับนางแพทริเซีย ภรรยาวัย 52 ปี ได้ถูกตำรวจนครลอส แองเจลีส จับกุมตัวในข้อหาจ่ายเงินสินบนมากกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 56 ล้านบาทให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท.เพื่อให้ได้สิทธิจัดงานเทศกาลภาพยนต์นานาชาติ กรุงเทพฯ( the Bangkok International Film Festival)กับข้อตกลงอื่นๆรวมมูลค่ามากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 330 ล้านบาท

ทั้งคู่ถูกจับกุมหลังถูกร้องเรียนในคดีอาญาที่นครลอส แองเจลีสเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม โดยแถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมระบุว่า สามีภรรยากรีนจัดตั้งบริษัทชื่อ " ฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนต์" เมื่อปี 2546 เพื่อประมูลสิทธิการจัดงานเทศกาลภาพยนต์นานาชาติกรุงเทพฯ และว่าในช่วงระหว่างปี 2546 กับ2550 ทั้งคู่ได้จ่ายเงินสดให้กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวของ ททท. ซึ่งเอกสารไม่ได้ระบุชื่อ เพื่อให้ตนได้เป็น

ผู้จัดงานเทศกาลภาพยนต์ดังกล่าว
 
ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของ ททท. หากนายและนางกรีนถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา จะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี

รายงานข่าวระบุด้วยว่า งานเทศกาลภาพยนต์นานาชาติกรุงเทพฯ เป็นงานภาพยนต์ใหญ่สุดงานหนึ่งของเอเชีย และจัดเป็นประจำมาทุกปี ตั้งแต่ปี 2545