ขรก.เฮ!เตรียมรับโบนัสก้อนโตจากรัฐบาล

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2549 04:32 น.

วิษณุ" ยันรัฐบาลรักษาการไม่กระทบจ่ายโบนัสข้าราชการปีนี้ ด้าน ก.พ.ร. คลอดหลักเกณฑ์จัดสรรโบนัส ขรก. ปี 48 ลงเว็ป ระบุมีหน่วยราชการเพิ่มจากปี 47 ถึง 41 เผยปีนี้ไม่มีการแบ่งกลุ่มบังคับ กลุ่มท้าทาย และกลุ่มนำร่อง เผยอัตราช่วงชั้นการจ่ายเงินจะละเอียดขึ้นเน้นแจกจ่ายถ้วนทั่วอย่างเป็นธรรม

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้ว่ารัฐบาลอยู่ในสถานะรักษาการ แต่ไม่กระทบต่อการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีให้กับส่วนราชการ เนื่องจากรัฐบาลได้กันงบประมาณในส่วนนี้ไว้แล้ว ทั้งนี้การจัดสรรเงินรางวัลประจำปีประจำปี 2548 อาจจะล่าช้าบ้างแต่ยืนยันว่าจะทุกส่วนราชการจะได้รับจัดสรรทันภายในปีนี้

ด้านสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้ทำหนังสือเวียนหลักเกณฑ์ วิธีการ และรูปแบบการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ 2548 ออกมาแล้วนั้น โดยคาดว่าจะสามารถจัดสรรเงินลงไปยังหน่วยงานต่าง ๆได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ จำนวน 5,500 ล้านบาท

โอกาสนี้ ก.พ.ร.ได้จัดทำรายละเอียดลงเวปไซด์ของก.พ.ร. (www.opdc.go.th) โดยในรายละเอียดที่ ก.พ.ร. ได้กำหนดเอาไว้มีหลายส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขเดิมในการจัดสรรเงินรางวัล ประจำปีงบประมาณ 2547 โดยมีเงื่อนไขและข้อจำกัด เช่น ส่วนราชการมีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2548 จำนวน 142 ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา 62 แห่ง และจังหวัด 75 จังหวัด เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ.2547 จำนวน 41 ส่วนราชการ ทั้งนี้ทุกส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด ที่เข้าสู่ระบบการประเมินเหมือนกัน โดยไม่มีการแบ่งกลุ่มบังคับ กลุ่มท้าทาย และกลุ่มนำร่องอีกต่อไป ดังนั้นจึงจะไม่มีการคูณ 2 เท่าให้กับส่วนราชการและจังหวัดเหมือนในการจัดสรรเงินรางวัลปีงบประมาณ พ.ศ. 2547

ทั้งนี้อัตราการจ่ายเงินรางวัล [B(Ri)] เปลี่ยนแปลงไปจากปีงบประมาณ พ.ศ.2547 โดยมีช่วงชั้น (Interval) ที่ละเอียดขึ้น ส่วนกรณีของจังหวัดจะแยกฐานเงินเดือนของตำรวจภูธรออกจากฐานเงินเดือนของส่วนราชการประจำจังหวัด เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตำรวจภูธรจังหวัดไปเป็นราชการบริหารส่วนกลาง

สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรให้แก่ส่วนราชการระดับกรมและจังหวัด อุดมศึกษา ข้าราชการและลูกจ้างประจำในสังกัด เช่น เมื่อส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด ได้รับจัดสรรเงินรางวัลไปแล้วจะต้องนำไปจัดสรรให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับพิจารณาจัดสรรเงินรางวัลประจำปี ได้แก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และกรณีกระทรวงสาธารณสุข ให้จัดสรรให้พนักงานของรัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขด้วย

สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องถ่ายทอดเป้าหมายการปฏิบัติราชการและแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของข้าราชการตำรวจที่ได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนทั่วไปของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการและการประเมินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และในการคำนวณจัดสรรเงินรางวัลให้รวมเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวไว้เป็นฐานเงินเดือนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

สำหรับสถาบันอุดมศึกษาอาจพิจารณาจัดสรรเงินรางวัลที่ได้รับให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัยที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของสถาบันการศึกษาด้วยก็ได้ ทั้งนี้ในการคำนวณจัดสรรเงินรางวัลให้แก่สถาบันอุดมศึกษาจะยังคงใช้ฐานเงินเดือนและค่าจ้างของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างจากเงินงบประมาณ งบบุคลากร (หมวดเงินเดือนและค่าจ้างเดิม) ของสถาบันอุดมศึกษาเท่านั้น แต่ผู้บริหารที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษ ไม่มีสิทธิได้รับเงินรางวัลนี้

ในส่วนราชการเป็นผู้จัดสรรเงินรางวัลให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำที่สังกัดราชการบริหารส่วนกลางและราชการบริหารส่วนกลางที่ปฏิบัติราชการอยู่ในภูมิภาค และให้จังหวัดเป็นผู้จัดสรรเงินรางวัลให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำที่สังกัดราชการบริหารส่วนภูมิภาค โดยที่ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ผู้ดำรงตำแหน่งและมีฐานเงินเดือน ณ วันที่ 1 กันยายน 2548 อยู่ ณ ส่วนราชการหรือจังหวัดใด จะมีสิทธิได้รับการพิจารณาจัดสรรเงินรางวัลจากส่วนราชการหรือจังหวัดนั้น สำหรับผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ส่วนราชการในต่างส่วนราชการหรือจังหวัดให้ได้รับเงินรางวัลจากส่วนราชการหรือจังหวัดที่ตนมีการเบิกจ่ายเงินเดือนและค่าจ้าง อยู่ ณ วันที่ 1 กันยายน 2548 โดยหัวหน้าส่วนราชการและผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องให้ความเป็นธรรมในการรับรองผลงานและติดตาผลการจัดสรรเงินรางวัลให้กับข้าราชการและลูกจ้างประจำเหล่านั้น

เมื่อส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการ และหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินรางวัล ให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำแล้ว จะต้องส่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปให้ก.พ.ร.พิจารณา ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2549 ด้วย อย่างไรก็ตามก.พ.ร. ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินรางวัลให้แก่สำนัก/กอง หรือสำนักงาน ของส่วนราชการระดับกรมและจังหวัด รวมทั้งระดับบุคคลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยให้สะท้อนถึงความร่วมมือในการสร้างผลงาน และสะท้อนความโดดเด่นเฉพาะบุคคลด้วย

นอกจากนี้ ก.พ.ร. ยังกำหนดแผนการดำเนินการต่อเนื่อง คือ ส่วนราชการ/จังหวัด จะต้องยืนยันคะแนนการประเมินผลการปฏิบัติราชการประจำปี งบประมาณ 2548 กลับมายัง ก.พ.ร. ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2549 นี้ และ ก.พ.ร. จะประมวลผลและคำนวณจัดสรรเงินรางวัลอีกครั้ง แล้วจะยืนยันไปยังส่วนราชการนั้น ๆ จากนั้นทุกส่วนราชการก็จะต้องกำหนดเกณฑ์วิธีการจัดสรรเงินรางวัลขึ้นมา และประกาศให้ทราบทั่วกัน และทำการเบิกจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้มีสิทธิต่อไป

ทั้งนี้ก.พ.ร.ยังได้เผยผลสรุปคะแนนประเมินรอบแรก ประจำปี 2548 คะแนนเต็ม 5 พบว่า ส่วนราชการ ได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 4.65 จังหวัดได้คะแนนร้อยละ 4.11 มหาวิทยาลัยได้คะแนนร้อยละ 4.15 โดยมีผลรวมจากการประเมินร้อยละ 4.39