ที่ตลาดยิ่งเจริญ เขตสายไหม นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย
พร้อมด้วย นายกร ทัพพะรังสี รักษาการรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางมาช่วย น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ นายฉมาดล หงสกุล และฐิติโชค กาญจนภักดี ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 5 พรรคชาติไทย หาเสียง จากนั้นนายบรรหารพร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่หาเสียงที่ปากซอยพหลโยธิน 52 เขต สายไหม และที่ตลาดวงศกร เขตสายไหม โดยนายบรรหารให้สัมภาษณ์ว่า ยังมั่นใจในเขตดอนเมือง สายไหม บางเขน เพราะเป็นเขตเดิมของผู้สมัครและฐานเสียงเดิมของนางปวีณา หงสกุล อดีต ส.ส.เขตสายไหม มีฐานเสียงเข้มแข็ง คิดว่าน่าจะมีหวัง แต่ทั้งนี้ผู้สมัครต้องขยันลงพบปะประชาชน วันนี้มาลงพื้นที่ก็หวังว่าจะได้คะแนนมากขึ้น
เมื่อถามว่า คาดว่าชาติไทยใน กทม.จะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง
นายบรรหารตอบว่า อย่างดีที่สุดคงได้ 2 ที่นั่ง คือได้ น.ส.จณิสตา และนายฉมาดล คงไม่มากไปกว่านี้ เพราะถ้าจะหวังในเขตยานนาวา คงไม่ง่าย รวมทั้งเขตบางคอแหลม บางแค ก็คงลำบากเหมือนกัน แต่จะปูพื้นฐานเสียงใน กทม.ต่อไป จะทำกรุงเทพ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ โดยจะเอา ต้นแบบจาก จ.สุพรรณบุรีมาพัฒนากรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียงหรือไม่
นายบรรหารตอบว่า ไม่ห่วง ตอนนี้สบายใจแล้ว และจะตั้งหน้าตั้งตาหาเสียงลูกเดียว เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ มีข่าวว่าพรรคการเมืองต่างๆได้จับขั้วกันล่วงหน้าแล้ว ว่า หลังเที่ยงคืนวันที่ 23 ธ.ค.จะรู้ว่าใครเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายบรรหารตอบว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากใคร แค่หาเสียงก็จะแย่อยู่แล้ว ยังไม่มีเวลามานั่งจับขั้วหรอก ตอนนี้แค่หาเสียงก็กินยาแก้ปวดหัวทุกวัน
เมื่อถามอีกว่า แกนนำ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาระบุว่า พร้อมจะหนุนทั้งพรรค พลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยมีจุดยืนตรงนี้หรือยัง
นายบรรหารตอบว่า “ผมยังไม่ตอบ เพราะตอบตอนนี้ยังไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลาที่จะให้ความเห็น” เมื่อถามต่อว่า เป็นห่วงเรื่องการเลือกตั้งล่วงหน้าที่อาจจะเกิดความไม่โปร่งใสในเรื่องของการนับคะแนนหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของ กกต.และ กกต.จังหวัด แต่ในส่วนของพรรคการเมืองต้องไหว้วานผู้สมัครเข้าไปดูแล เพราะทางพรรคคงเข้าไปดูอย่างใกล้ชิดไม่ได้